Radeon RX Vega 9 เทียบกับ RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 กับ Radeon RX Vega 9 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX Vega 64 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 9 อย่างมหาศาลถึง 560% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 133 | 615 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.80 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.61 | 25.65 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Vega Raven Ridge |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 26 ตุลาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 576 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 1300 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 64 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 256 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
ความยาว | 279 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | ไม่มีข้อมูล |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | ไม่มีข้อมูล |
483.8 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12_1 |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | 1.1.125 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 119
+561%
| 18
−561%
|
1440p | 82
+583%
| 12−14
−583%
|
4K | 54
+575%
| 8−9
−575%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.19 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.09 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.24 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 100−110
+677%
|
12−14
−677%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+533%
|
12−14
−533%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+609%
|
10−12
−609%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 100−110
+677%
|
12−14
−677%
|
Battlefield 5 | 161
+632%
|
21−24
−632%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+533%
|
12−14
−533%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+609%
|
10−12
−609%
|
Far Cry 5 | 110
+633%
|
14−16
−633%
|
Fortnite | 150−160
+591%
|
22
−591%
|
Forza Horizon 4 | 167
+596%
|
24−27
−596%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+733%
|
12−14
−733%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
Valorant | 315
+400%
|
60−65
−400%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 100−110
+677%
|
12−14
−677%
|
Battlefield 5 | 146
+564%
|
21−24
−564%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+533%
|
12−14
−533%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+211%
|
85−90
−211%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+609%
|
10−12
−609%
|
Dota 2 | 150
+241%
|
40−45
−241%
|
Far Cry 5 | 104
+593%
|
14−16
−593%
|
Fortnite | 150−160
+850%
|
16
−850%
|
Forza Horizon 4 | 158
+558%
|
24−27
−558%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+733%
|
12−14
−733%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+550%
|
18−20
−550%
|
Metro Exodus | 73
+630%
|
10−11
−630%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+915%
|
13
−915%
|
Valorant | 293
+365%
|
60−65
−365%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
+532%
|
21−24
−532%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+533%
|
12−14
−533%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+609%
|
10−12
−609%
|
Dota 2 | 138
+214%
|
40−45
−214%
|
Far Cry 5 | 98
+553%
|
14−16
−553%
|
Forza Horizon 4 | 128
+433%
|
24−27
−433%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+733%
|
12−14
−733%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+863%
|
8
−863%
|
Valorant | 140
+122%
|
60−65
−122%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+1589%
|
9
−1589%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+600%
|
4−5
−600%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+488%
|
40−45
−488%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+1033%
|
6−7
−1033%
|
Metro Exodus | 46
+1050%
|
4−5
−1050%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+400%
|
35−40
−400%
|
Valorant | 263
+346%
|
55−60
−346%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
+1400%
|
6−7
−1400%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+850%
|
4−5
−850%
|
Far Cry 5 | 81
+710%
|
10−11
−710%
|
Forza Horizon 4 | 98
+717%
|
12−14
−717%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+663%
|
8−9
−663%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+675%
|
8−9
−675%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+780%
|
10−11
−780%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
+600%
|
4−5
−600%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+700%
|
2−3
−700%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+318%
|
16−18
−318%
|
Metro Exodus | 46
+667%
|
6−7
−667%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+2300%
|
2−3
−2300%
|
Valorant | 205
+688%
|
24−27
−688%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
+1867%
|
3−4
−1867%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+700%
|
2−3
−700%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+750%
|
2−3
−750%
|
Dota 2 | 96
+433%
|
18−20
−433%
|
Far Cry 5 | 44
+780%
|
5−6
−780%
|
Forza Horizon 4 | 66
+843%
|
7−8
−843%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+1100%
|
3−4
−1100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+760%
|
5−6
−760%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
+740%
|
5−6
−740%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 7−8
+0%
|
7−8
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ RX Vega 9 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เร็วกว่า 561% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 583% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 575% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 2300%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.72 | 5.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 26 ตุลาคม 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RX Vega 64 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 560.4%
ในทางกลับกัน RX Vega 9 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1866.7%
Radeon RX Vega 64 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 9 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega 64 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX Vega 9 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก