Radeon RX Vega 5 เทียบกับ RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 กับ Radeon RX Vega 5 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX Vega 64 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 5 อย่างมหาศาลถึง 690% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 158 | 691 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 19.90 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.50 | 21.15 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Vega |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 320 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 1400 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 64 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 256 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
ความยาว | 279 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | ไม่มีข้อมูล |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | ไม่มีข้อมูล |
483.8 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12_1 |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | 1.1.125 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 116
+511%
| 19
−511%
|
1440p | 76
+744%
| 9−10
−744%
|
4K | 50
+733%
| 6−7
−733%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.30 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.57 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.98 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 80−85
+950%
|
8
−950%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+351%
|
43
−351%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+767%
|
9
−767%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 80−85
+1100%
|
7
−1100%
|
Battlefield 5 | 161
+632%
|
22
−632%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+569%
|
29
−569%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+767%
|
9−10
−767%
|
Far Cry 5 | 110
+633%
|
15
−633%
|
Fortnite | 150−160
+190%
|
52
−190%
|
Forza Horizon 4 | 167
+735%
|
20−22
−735%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+529%
|
17
−529%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+700%
|
16−18
−700%
|
Valorant | 315
+453%
|
55−60
−453%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 80−85
+833%
|
9−10
−833%
|
Battlefield 5 | 146
+711%
|
18
−711%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+2671%
|
7
−2671%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+456%
|
50
−456%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+767%
|
9−10
−767%
|
Dota 2 | 150
+285%
|
39
−285%
|
Far Cry 5 | 104
+767%
|
12
−767%
|
Fortnite | 150−160
+619%
|
21
−619%
|
Forza Horizon 4 | 158
+690%
|
20−22
−690%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+613%
|
15
−613%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+792%
|
13
−792%
|
Metro Exodus | 73
+1725%
|
4
−1725%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+700%
|
16−18
−700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+843%
|
14
−843%
|
Valorant | 293
+414%
|
55−60
−414%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 80−85
+833%
|
9−10
−833%
|
Battlefield 5 | 139
+769%
|
16
−769%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+767%
|
9−10
−767%
|
Dota 2 | 138
+273%
|
37
−273%
|
Far Cry 5 | 98
+654%
|
12−14
−654%
|
Forza Horizon 4 | 128
+540%
|
20−22
−540%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+700%
|
16−18
−700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+756%
|
9
−756%
|
Valorant | 140
+146%
|
55−60
−146%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+1158%
|
12
−1158%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
+1283%
|
6−7
−1283%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+615%
|
30−35
−615%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+1575%
|
4−5
−1575%
|
Metro Exodus | 46
+1433%
|
3−4
−1433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+483%
|
30−33
−483%
|
Valorant | 263
+460%
|
45−50
−460%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 50−55
+1150%
|
4−5
−1150%
|
Battlefield 5 | 85−90
+4350%
|
2−3
−4350%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+1167%
|
3−4
−1167%
|
Far Cry 5 | 81
+913%
|
8−9
−913%
|
Forza Horizon 4 | 98
+880%
|
10−11
−880%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+950%
|
6−7
−950%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+1000%
|
8−9
−1000%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 27−30
+800%
|
3−4
−800%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+850%
|
4−5
−850%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+312%
|
16−18
−312%
|
Metro Exodus | 46
+820%
|
5−6
−820%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+700%
|
6−7
−700%
|
Valorant | 205
+832%
|
21−24
−832%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 27−30
+800%
|
3−4
−800%
|
Battlefield 5 | 59
+5800%
|
1−2
−5800%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+850%
|
4−5
−850%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+1600%
|
1−2
−1600%
|
Dota 2 | 96
+586%
|
14−16
−586%
|
Far Cry 5 | 44
+1367%
|
3−4
−1367%
|
Forza Horizon 4 | 66
+1220%
|
5−6
−1220%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+740%
|
5−6
−740%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
+740%
|
5−6
−740%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ RX Vega 5 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เร็วกว่า 511% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 744% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 733% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 5800%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX Vega 64 เหนือกว่า RX Vega 5 ในการทดสอบทั้ง 60 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.41 | 4.48 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RX Vega 64 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 690.4%
ในทางกลับกัน RX Vega 5 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1866.7%
Radeon RX Vega 64 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 5 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega 64 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX Vega 5 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก