Radeon 660M เทียบกับ RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 กับ Radeon 660M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 528% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 568 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 11.85 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 64 | 16 |
TMUs | 128 | 24 |
Ray Tracing Cores | 32 | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 204 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | System Shared |
288.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+480%
| 25
−480%
|
1440p | 67
+570%
| 10−12
−570%
|
4K | 35
+600%
| 5−6
−600%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.01 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.69 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+634%
|
29
−634%
|
Counter-Strike 2 | 135
+938%
|
12−14
−938%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+517%
|
24
−517%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+587%
|
23
−587%
|
Battlefield 5 | 130−140
+382%
|
27−30
−382%
|
Counter-Strike 2 | 108
+731%
|
12−14
−731%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+485%
|
20
−485%
|
Far Cry 5 | 183
+510%
|
30
−510%
|
Fortnite | 170−180
+341%
|
35−40
−341%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+431%
|
27−30
−431%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+293%
|
30
−293%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+550%
|
24−27
−550%
|
Valorant | 230−240
+225%
|
70−75
−225%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+615%
|
13
−615%
|
Battlefield 5 | 130−140
+382%
|
27−30
−382%
|
Counter-Strike 2 | 90
+718%
|
11
−718%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+162%
|
100−110
−162%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+614%
|
14
−614%
|
Far Cry 5 | 174
+569%
|
26
−569%
|
Fortnite | 170−180
+341%
|
35−40
−341%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+431%
|
27−30
−431%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+687%
|
14−16
−687%
|
Grand Theft Auto V | 150
+500%
|
25
−500%
|
Metro Exodus | 113
+653%
|
15
−653%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+550%
|
24−27
−550%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+708%
|
26
−708%
|
Valorant | 230−240
+225%
|
70−75
−225%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+382%
|
27−30
−382%
|
Counter-Strike 2 | 81
+523%
|
12−14
−523%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+592%
|
12−14
−592%
|
Far Cry 5 | 163
+552%
|
25
−552%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+431%
|
27−30
−431%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+550%
|
24−27
−550%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+720%
|
15
−720%
|
Valorant | 230−240
+225%
|
70−75
−225%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+341%
|
35−40
−341%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+540%
|
5−6
−540%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+450%
|
50−55
−450%
|
Grand Theft Auto V | 77
+863%
|
8−9
−863%
|
Metro Exodus | 65
+983%
|
6−7
−983%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+361%
|
35−40
−361%
|
Valorant | 260−270
+258%
|
70−75
−258%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+818%
|
10−12
−818%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+1020%
|
5−6
−1020%
|
Far Cry 5 | 115
+785%
|
12−14
−785%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+667%
|
14−16
−667%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+760%
|
10−11
−760%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+715%
|
12−14
−715%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+560%
|
5−6
−560%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+1900%
|
1−2
−1900%
|
Grand Theft Auto V | 82
+356%
|
18−20
−356%
|
Metro Exodus | 38
+3700%
|
1−2
−3700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+1375%
|
4−5
−1375%
|
Valorant | 240−250
+636%
|
30−35
−636%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+1180%
|
5−6
−1180%
|
Counter-Strike 2 | 11
+1000%
|
1−2
−1000%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+1100%
|
2−3
−1100%
|
Far Cry 5 | 57
+714%
|
7−8
−714%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+670%
|
10−11
−670%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+817%
|
6−7
−817%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+783%
|
6−7
−783%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 56
+0%
|
56
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 48
+0%
|
48
+0%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+0%
|
14−16
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
Forza Horizon 5 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 21−24
+0%
|
21−24
+0%
|
Forza Horizon 5 | 4−5
+0%
|
4−5
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 480% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 570% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 600% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 3700%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 6.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 3 มกราคม 2023 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 40 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 527.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 เดือน
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 312.5%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 7600 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 660M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก