Radeon 680M เทียบกับ RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 กับ Radeon 680M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างมหาศาลถึง 399% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 506 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 11.93 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 105.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 3.379 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 128 | 48 |
Ray Tracing Cores | 32 | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 204 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | System Shared |
288.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+292%
| 37
−292%
|
1440p | 67
+294%
| 17
−294%
|
4K | 35
+218%
| 11
−218%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.01 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.69 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+353%
|
47
−353%
|
Counter-Strike 2 | 135
+382%
|
28
−382%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+289%
|
38
−289%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+327%
|
37
−327%
|
Battlefield 5 | 130−140
+275%
|
35−40
−275%
|
Counter-Strike 2 | 108
+370%
|
23
−370%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+318%
|
28
−318%
|
Far Cry 5 | 183
+382%
|
38
−382%
|
Fortnite | 170−180
+251%
|
45−50
−251%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+328%
|
35−40
−328%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+211%
|
38
−211%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+438%
|
27−30
−438%
|
Valorant | 230−240
+182%
|
80−85
−182%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+365%
|
20
−365%
|
Battlefield 5 | 130−140
+275%
|
35−40
−275%
|
Counter-Strike 2 | 90
+329%
|
21
−329%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+119%
|
120−130
−119%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+376%
|
21
−376%
|
Far Cry 5 | 174
+397%
|
35
−397%
|
Fortnite | 170−180
+251%
|
45−50
−251%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+328%
|
35−40
−328%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+490%
|
20−22
−490%
|
Grand Theft Auto V | 150
+317%
|
36
−317%
|
Metro Exodus | 113
+391%
|
23
−391%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+438%
|
27−30
−438%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+425%
|
40
−425%
|
Valorant | 230−240
+182%
|
80−85
−182%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+275%
|
35−40
−275%
|
Counter-Strike 2 | 81
+406%
|
16−18
−406%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+400%
|
18
−400%
|
Far Cry 5 | 163
+394%
|
33
−394%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+328%
|
35−40
−328%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+438%
|
27−30
−438%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+413%
|
24
−413%
|
Valorant | 230−240
+58.2%
|
146
−58.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+251%
|
45−50
−251%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+433%
|
6−7
−433%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+344%
|
60−65
−344%
|
Grand Theft Auto V | 77
+353%
|
17
−353%
|
Metro Exodus | 65
+713%
|
8−9
−713%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+317%
|
40−45
−317%
|
Valorant | 260−270
+184%
|
90−95
−184%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+461%
|
18−20
−461%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+460%
|
10
−460%
|
Far Cry 5 | 115
+448%
|
21
−448%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+505%
|
18−20
−505%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+406%
|
17
−406%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+524%
|
16−18
−524%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+371%
|
7−8
−371%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+900%
|
2−3
−900%
|
Grand Theft Auto V | 82
+332%
|
18−20
−332%
|
Metro Exodus | 38
+1167%
|
3−4
−1167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+354%
|
13
−354%
|
Valorant | 240−250
+479%
|
40−45
−479%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+611%
|
9−10
−611%
|
Counter-Strike 2 | 11
+450%
|
2−3
−450%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+500%
|
4
−500%
|
Far Cry 5 | 57
+613%
|
8−9
−613%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+492%
|
12−14
−492%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+588%
|
8−9
−588%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+563%
|
8−9
−563%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 71
+0%
|
71
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 61
+0%
|
61
+0%
|
Forza Horizon 5 | 26
+0%
|
26
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+0%
|
14−16
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 18
+0%
|
18
+0%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
+0%
|
6−7
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ Radeon 680M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 292% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 294% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 218% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 1167%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 8.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 3 มกราคม 2023 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 50 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 398.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 เดือน
ในทางกลับกัน Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 230%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 7600 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 680M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก