GeForce GTX 1660 Ti เทียบกับ Radeon RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ GeForce GTX 1660 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างมาก 29% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 165 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | 27 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | 43.14 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 19.26 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | TU116 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $279 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 Ti อยู่ 117%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1536 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 6,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 120 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 169.9 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 5.437 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 128 | 96 |
Ray Tracing Cores | 32 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 204 mm | 229 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1500 MHz |
288.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+38.1%
| 105
−38.1%
|
1440p | 67
+11.7%
| 60
−11.7%
|
4K | 35
−11.4%
| 39
+11.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86
+43.2%
| 2.66
−43.2%
|
1440p | 4.01
+15.8%
| 4.65
−15.8%
|
4K | 7.69
−7.4%
| 7.15
+7.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+134%
|
90−95
−134%
|
Counter-Strike 2 | 135
+101%
|
65−70
−101%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+89.7%
|
78
−89.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+73.6%
|
90−95
−73.6%
|
Battlefield 5 | 130−140
+4.7%
|
129
−4.7%
|
Counter-Strike 2 | 108
+61.2%
|
65−70
−61.2%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+64.8%
|
71
−64.8%
|
Far Cry 5 | 183
+67.9%
|
109
−67.9%
|
Fortnite | 170−180
−43.6%
|
247
+43.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+17.6%
|
131
−17.6%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+25.5%
|
94
−25.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−28.2%
|
200
+28.2%
|
Valorant | 230−240
+18.5%
|
190−200
−18.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+2.2%
|
90−95
−2.2%
|
Battlefield 5 | 130−140
+20.5%
|
112
−20.5%
|
Counter-Strike 2 | 90
+34.3%
|
65−70
−34.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+1.1%
|
270−280
−1.1%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+75.4%
|
57
−75.4%
|
Far Cry 5 | 174
+75.8%
|
99
−75.8%
|
Fortnite | 170−180
+20.3%
|
143
−20.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+26.2%
|
122
−26.2%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+63.9%
|
72
−63.9%
|
Grand Theft Auto V | 150
+26.1%
|
119
−26.1%
|
Metro Exodus | 113
+105%
|
55
−105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+4%
|
150
−4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+81%
|
116
−81%
|
Valorant | 230−240
+18.5%
|
190−200
−18.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+32.4%
|
102
−32.4%
|
Counter-Strike 2 | 81
+20.9%
|
65−70
−20.9%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+95.7%
|
46
−95.7%
|
Far Cry 5 | 163
+73.4%
|
94
−73.4%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+58.8%
|
97
−58.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+20.9%
|
129
−20.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+98.4%
|
62
−98.4%
|
Valorant | 230−240
+95.8%
|
118
−95.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+47%
|
117
−47%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+18.5%
|
27−30
−18.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+27.9%
|
210−220
−27.9%
|
Grand Theft Auto V | 77
+24.2%
|
62
−24.2%
|
Metro Exodus | 65
+97%
|
33
−97%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
+12.5%
|
230−240
−12.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+32.9%
|
76
−32.9%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+107%
|
27
−107%
|
Far Cry 5 | 115
+71.6%
|
67
−71.6%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+49.4%
|
77
−49.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+56.4%
|
55−60
−56.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+41.3%
|
75
−41.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+32%
|
24−27
−32%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+33.3%
|
14−16
−33.3%
|
Grand Theft Auto V | 82
+46.4%
|
56
−46.4%
|
Metro Exodus | 38
+81%
|
21
−81%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+37.2%
|
43
−37.2%
|
Valorant | 240−250
+29.3%
|
180−190
−29.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+48.8%
|
43
−48.8%
|
Counter-Strike 2 | 11
−36.4%
|
14−16
+36.4%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+118%
|
11
−118%
|
Far Cry 5 | 57
+62.9%
|
35
−62.9%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+51%
|
51
−51%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+41%
|
39
−41%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+112%
|
25
−112%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 181
+0%
|
181
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 168
+0%
|
168
+0%
|
Forza Horizon 5 | 66
+0%
|
66
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 47
+0%
|
47
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 94
+0%
|
94
+0%
|
Forza Horizon 5 | 24
+0%
|
24
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ GTX 1660 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 38% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 11% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 134%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 44%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (85%)
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (4%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 33.15 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 22 กุมภาพันธ์ 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 120 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 28.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 37.5%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ