GeForce GTX 1660 เทียบกับ Radeon RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ GeForce GTX 1660 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างน่าสนใจ 43% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 94 | 202 |
จัดอันดับตามความนิยม | 52 | 49 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 90.34 | 42.30 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.89 | 17.26 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | TU116 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $219 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 อยู่ 114%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1408 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1530 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 1785 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 6,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 120 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 157.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 5.027 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 128 | 88 |
Ray Tracing Cores | 32 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 204 mm | 229 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 2001 MHz |
288.0 จีบี/s | 192.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 141
+69.9%
| 83
−69.9%
|
1440p | 71
+42%
| 50
−42%
|
4K | 36
+33.3%
| 27
−33.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.91
+38.3%
| 2.64
−38.3%
|
1440p | 3.79
+15.6%
| 4.38
−15.6%
|
4K | 7.47
+8.6%
| 8.11
−8.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 348
+28.4%
|
271
−28.4%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+108%
|
71
−108%
|
Hogwarts Legacy | 161
+104%
|
79
−104%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 130−140
+26.2%
|
100−110
−26.2%
|
Counter-Strike 2 | 336
+50.7%
|
223
−50.7%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+102%
|
58
−102%
|
Far Cry 5 | 183
+83%
|
100
−83%
|
Fortnite | 170−180
+29.3%
|
130−140
−29.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+16.7%
|
132
−16.7%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
+24%
|
100
−24%
|
Hogwarts Legacy | 120
+103%
|
59
−103%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+39.3%
|
110−120
−39.3%
|
Valorant | 230−240
−32.5%
|
306
+32.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 130−140
+26.2%
|
100−110
−26.2%
|
Counter-Strike 2 | 179
+67.3%
|
107
−67.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+3%
|
270−280
−3%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+113%
|
47
−113%
|
Far Cry 5 | 174
+89.1%
|
92
−89.1%
|
Fortnite | 170−180
+29.3%
|
130−140
−29.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+25.2%
|
123
−25.2%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
+40.9%
|
88
−40.9%
|
Grand Theft Auto V | 150
+30.4%
|
115
−30.4%
|
Hogwarts Legacy | 94
+104%
|
46
−104%
|
Metro Exodus | 113
+98.2%
|
57
−98.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+39.3%
|
110−120
−39.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+106%
|
102
−106%
|
Valorant | 230−240
−24.2%
|
287
+24.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+26.2%
|
100−110
−26.2%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+125%
|
40
−125%
|
Far Cry 5 | 163
+89.5%
|
86
−89.5%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+57.1%
|
98
−57.1%
|
Hogwarts Legacy | 71
+97.2%
|
36
−97.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+39.3%
|
110−120
−39.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+116%
|
57
−116%
|
Valorant | 230−240
+101%
|
115
−101%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+29.3%
|
130−140
−29.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 90
+45.2%
|
62
−45.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+40.1%
|
190−200
−40.1%
|
Grand Theft Auto V | 77
+48.1%
|
52
−48.1%
|
Metro Exodus | 65
+97%
|
33
−97%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+35.7%
|
129
−35.7%
|
Valorant | 260−270
+15.9%
|
226
−15.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+31.2%
|
75−80
−31.2%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+133%
|
24
−133%
|
Far Cry 5 | 115
+94.9%
|
59
−94.9%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+51.3%
|
76
−51.3%
|
Hogwarts Legacy | 50
+108%
|
24
−108%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+75.5%
|
45−50
−75.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+51.4%
|
70−75
−51.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 22
+37.5%
|
16
−37.5%
|
Grand Theft Auto V | 82
+67.3%
|
49
−67.3%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
+31.6%
|
18−20
−31.6%
|
Metro Exodus | 38
+90%
|
20
−90%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+68.6%
|
35
−68.6%
|
Valorant | 240−250
+94.4%
|
125
−94.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+45.5%
|
40−45
−45.5%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+60%
|
30−33
−60%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+140%
|
10
−140%
|
Far Cry 5 | 57
+90%
|
30
−90%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+54%
|
50
−54%
|
Hogwarts Legacy | 22
+69.2%
|
13
−69.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+71.9%
|
30−35
−71.9%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+60.6%
|
30−35
−60.6%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 219
+0%
|
219
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 197
+0%
|
197
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 87
+0%
|
87
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ GTX 1660 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 140%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1660 เร็วกว่า 32%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (92%)
- GTX 1660 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 37.20 | 26.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 14 มีนาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 120 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 42.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 37.5%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ