RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ Radeon RX 6600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6600 กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 อย่างน่าประทับใจ 88% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 118 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | 14 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 66.17 | 7.58 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 20.51 | 17.00 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 13 ตุลาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 773%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1792 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1626 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2491 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 132 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 279.0 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.928 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 64 | 192 |
TMUs | 112 | 568 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 568 |
Ray Tracing Cores | 28 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 190 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2500 MHz |
224.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12.0 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 111
−65.8%
| 184
+65.8%
|
1440p | 56
−189%
| 162
+189%
|
4K | 30
−270%
| 111
+270%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.96
+1147%
| 36.95
−1147%
|
1440p | 5.88
+614%
| 41.97
−614%
|
4K | 10.97
+459%
| 61.25
−459%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 169
−24.3%
|
210−220
+24.3%
|
Counter-Strike 2 | 111
−47.7%
|
164
+47.7%
|
Cyberpunk 2077 | 107
−61.7%
|
170−180
+61.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120
−75%
|
210−220
+75%
|
Battlefield 5 | 120−130
−41.7%
|
180−190
+41.7%
|
Counter-Strike 2 | 84
−94%
|
163
+94%
|
Cyberpunk 2077 | 91
−90.1%
|
170−180
+90.1%
|
Far Cry 5 | 154
+18.5%
|
130
−18.5%
|
Fortnite | 160−170
−88.8%
|
300−350
+88.8%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−94.3%
|
270−280
+94.3%
|
Forza Horizon 5 | 123
−61%
|
190−200
+61%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−22.1%
|
170−180
+22.1%
|
Valorant | 210−220
−82.4%
|
350−400
+82.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 70
−200%
|
210−220
+200%
|
Battlefield 5 | 120−130
−41.7%
|
180−190
+41.7%
|
Counter-Strike 2 | 68
−128%
|
155
+128%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 73
−137%
|
170−180
+137%
|
Dota 2 | 150
−86.7%
|
280−290
+86.7%
|
Far Cry 5 | 142
+12.7%
|
126
−12.7%
|
Fortnite | 160−170
−88.8%
|
300−350
+88.8%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−94.3%
|
270−280
+94.3%
|
Forza Horizon 5 | 98
−102%
|
190−200
+102%
|
Grand Theft Auto V | 137
−24.1%
|
170−180
+24.1%
|
Metro Exodus | 82
−39%
|
114
+39%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−22.1%
|
170−180
+22.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 147
−233%
|
489
+233%
|
Valorant | 210−220
−82.4%
|
350−400
+82.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 120−130
−41.7%
|
180−190
+41.7%
|
Counter-Strike 2 | 59
−149%
|
147
+149%
|
Cyberpunk 2077 | 59
−193%
|
170−180
+193%
|
Dota 2 | 107
−86.9%
|
200−210
+86.9%
|
Far Cry 5 | 134
+13.6%
|
118
−13.6%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−94.3%
|
270−280
+94.3%
|
Forza Horizon 5 | 85
−88.2%
|
160−170
+88.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−22.1%
|
170−180
+22.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
−189%
|
260
+189%
|
Valorant | 210−220
−82.4%
|
350−400
+82.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 160−170
−88.8%
|
300−350
+88.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−33
−143%
|
70−75
+143%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−106%
|
500−550
+106%
|
Grand Theft Auto V | 64
−123%
|
140−150
+123%
|
Metro Exodus | 48
−97.9%
|
95
+97.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 240−250
−94.8%
|
450−500
+94.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−87.2%
|
170−180
+87.2%
|
Cyberpunk 2077 | 34
−194%
|
100−105
+194%
|
Far Cry 5 | 91
−29.7%
|
118
+29.7%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−132%
|
230−240
+132%
|
Forza Horizon 5 | 60
−83.3%
|
110−120
+83.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65−70
−222%
|
219
+222%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 95−100
−58.9%
|
150−160
+58.9%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
−124%
|
65−70
+124%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−339%
|
79
+339%
|
Grand Theft Auto V | 60
−177%
|
160−170
+177%
|
Metro Exodus | 29
−210%
|
90
+210%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−318%
|
184
+318%
|
Valorant | 220−230
−49.5%
|
300−350
+49.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
−126%
|
130−140
+126%
|
Counter-Strike 2 | 7
−329%
|
30
+329%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−243%
|
45−50
+243%
|
Dota 2 | 85
−88.2%
|
160−170
+88.2%
|
Far Cry 5 | 44
−161%
|
115
+161%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−184%
|
190−200
+184%
|
Forza Horizon 5 | 29
−72.4%
|
50−55
+72.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−104%
|
95−100
+104%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−71.7%
|
75−80
+71.7%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6600 และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 66% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 189% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 270% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 6600 เร็วกว่า 18%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 339%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6600 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (93%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 38.84 | 73.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 ตุลาคม 2021 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 132 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RX 6600 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 127.3%
ในทางกลับกัน RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 88.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6600 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน