Radeon RX 7900 GRE เทียบกับ RX 6600 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6600 XT และ Radeon RX 7900 GRE โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 GRE มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 XT อย่างน่าประทับใจ 64% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 91 | 23 |
จัดอันดับตามความนิยม | 75 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 62.22 | 67.47 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.45 | 18.57 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | Navi 31 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 กรกฎาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 27 กรกฎาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $379 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7900 GRE มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 6600 XT อยู่ 8%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 5120 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1968 MHz | 1287 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2589 MHz | 2245 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 57,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 160 Watt | 260 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 331.4 | 718.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.6 TFLOPS | 45.98 TFLOPS |
ROPs | 64 | 160 |
TMUs | 128 | 320 |
Ray Tracing Cores | 32 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 190 mm | 276 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2250 MHz |
256.0 จีบี/s | 576.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 2x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12.0 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 132
−58.3%
| 209
+58.3%
|
1440p | 75
−70.7%
| 128
+70.7%
|
4K | 43
−79.1%
| 77
+79.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.87
−9.3%
| 2.63
+9.3%
|
1440p | 5.05
−17.8%
| 4.29
+17.8%
|
4K | 8.81
−23.6%
| 7.13
+23.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−153%
|
303
+153%
|
Counter-Strike 2 | 120
−38.3%
|
160−170
+38.3%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−163%
|
208
+163%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−93.3%
|
232
+93.3%
|
Battlefield 5 | 130−140
−29.9%
|
170−180
+29.9%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−80.4%
|
160−170
+80.4%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−136%
|
184
+136%
|
Far Cry 5 | 151
−15.2%
|
174
+15.2%
|
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−67.3%
|
250−260
+67.3%
|
Forza Horizon 5 | 123
−53.7%
|
180−190
+53.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
Valorant | 220−230
−59.8%
|
350−400
+59.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
−25%
|
150
+25%
|
Battlefield 5 | 130−140
−29.9%
|
170−180
+29.9%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−80.4%
|
160−170
+80.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 76
−108%
|
158
+108%
|
Dota 2 | 170
−58.8%
|
270−280
+58.8%
|
Far Cry 5 | 141
−19.1%
|
168
+19.1%
|
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−67.3%
|
250−260
+67.3%
|
Forza Horizon 5 | 115
−64.3%
|
180−190
+64.3%
|
Grand Theft Auto V | 135
−21.5%
|
164
+21.5%
|
Metro Exodus | 95
−88.4%
|
179
+88.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 176
−117%
|
382
+117%
|
Valorant | 220−230
−59.8%
|
350−400
+59.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−29.9%
|
170−180
+29.9%
|
Counter-Strike 2 | 67
−148%
|
160−170
+148%
|
Cyberpunk 2077 | 69
−114%
|
148
+114%
|
Dota 2 | 120
−58.3%
|
190−200
+58.3%
|
Far Cry 5 | 133
−16.5%
|
155
+16.5%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−67.3%
|
250−260
+67.3%
|
Forza Horizon 5 | 97
−54.6%
|
150−160
+54.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
−111%
|
209
+111%
|
Valorant | 220−230
−59.8%
|
350−400
+59.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−106%
|
60−65
+106%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−83.5%
|
450−500
+83.5%
|
Grand Theft Auto V | 68
−91.2%
|
130
+91.2%
|
Metro Exodus | 56
−98.2%
|
111
+98.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−71.2%
|
400−450
+71.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−61.4%
|
160−170
+61.4%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−145%
|
98
+145%
|
Far Cry 5 | 105
−46.7%
|
154
+46.7%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−93.9%
|
220−230
+93.9%
|
Forza Horizon 5 | 71
−54.9%
|
110−120
+54.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−105%
|
156
+105%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−43.8%
|
150−160
+43.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−87.5%
|
60−65
+87.5%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−125%
|
45−50
+125%
|
Grand Theft Auto V | 64
−136%
|
151
+136%
|
Metro Exodus | 34
−109%
|
71
+109%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−131%
|
125
+131%
|
Valorant | 240−250
−37.3%
|
300−350
+37.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−88.9%
|
110−120
+88.9%
|
Counter-Strike 2 | 8
−463%
|
45−50
+463%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−221%
|
45
+221%
|
Dota 2 | 86
−62.8%
|
140−150
+62.8%
|
Far Cry 5 | 51
−110%
|
107
+110%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−128%
|
170−180
+128%
|
Forza Horizon 5 | 36
−52.8%
|
55−60
+52.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−74.5%
|
95−100
+74.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−51.9%
|
75−80
+51.9%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6600 XT และ RX 7900 GRE แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 GRE เร็วกว่า 58% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 GRE เร็วกว่า 71% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 GRE เร็วกว่า 79% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 GRE เร็วกว่า 463%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 GRE เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.34 | 69.25 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 กรกฎาคม 2021 | 27 กรกฎาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 160 วัตต์ | 260 วัตต์ |
RX 6600 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 62.5%
ในทางกลับกัน RX 7900 GRE มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 63.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 7900 GRE เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6600 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ