Radeon RX 7900 XTX เทียบกับ RX 6600 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6600 XT และ Radeon RX 7900 XTX โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 XT อย่างน่าประทับใจ 88% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 92 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | 75 | 53 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 62.14 | 34.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.38 | 15.60 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | Navi 31 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 กรกฎาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $379 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6600 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XTX อยู่ 78%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1968 MHz | 1929 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2589 MHz | 2498 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 57,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 160 Watt | 355 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 331.4 | 959.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.6 TFLOPS | 61.39 TFLOPS |
ROPs | 64 | 192 |
TMUs | 128 | 384 |
Ray Tracing Cores | 32 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 190 mm | 287 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2500 MHz |
256.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 2x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12.0 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 132
−84.1%
| 243
+84.1%
|
1440p | 75
−119%
| 164
+119%
|
4K | 43
−135%
| 101
+135%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.87
+43.2%
| 4.11
−43.2%
|
1440p | 5.05
+20.5%
| 6.09
−20.5%
|
4K | 8.81
+12.2%
| 9.89
−12.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−199%
|
359
+199%
|
Counter-Strike 2 | 120
−78.3%
|
214
+78.3%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−216%
|
250
+216%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−142%
|
290
+142%
|
Battlefield 5 | 130−140
−41.8%
|
190−200
+41.8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−162%
|
241
+162%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−208%
|
240
+208%
|
Far Cry 5 | 151
−40.4%
|
212
+40.4%
|
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−121%
|
338
+121%
|
Forza Horizon 5 | 123
−119%
|
269
+119%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
Valorant | 220−230
−97.4%
|
450−500
+97.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
−65.8%
|
199
+65.8%
|
Battlefield 5 | 130−140
−41.8%
|
190−200
+41.8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−139%
|
220
+139%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 76
−186%
|
217
+186%
|
Dota 2 | 170
−15.9%
|
197
+15.9%
|
Far Cry 5 | 141
−45.4%
|
205
+45.4%
|
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−116%
|
330
+116%
|
Forza Horizon 5 | 115
−121%
|
254
+121%
|
Grand Theft Auto V | 135
−29.6%
|
175
+29.6%
|
Metro Exodus | 95
−152%
|
239
+152%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 176
−210%
|
545
+210%
|
Valorant | 220−230
−97.4%
|
450−500
+97.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−41.8%
|
190−200
+41.8%
|
Counter-Strike 2 | 67
−207%
|
206
+207%
|
Cyberpunk 2077 | 69
−200%
|
207
+200%
|
Dota 2 | 120
−48.3%
|
178
+48.3%
|
Far Cry 5 | 133
−42.1%
|
189
+42.1%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−92.8%
|
295
+92.8%
|
Forza Horizon 5 | 97
−85.6%
|
180−190
+85.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−14.2%
|
170−180
+14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
−201%
|
298
+201%
|
Valorant | 220−230
−97.4%
|
450−500
+97.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−76.6%
|
300−350
+76.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−200%
|
90−95
+200%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−89.7%
|
500−550
+89.7%
|
Grand Theft Auto V | 68
−143%
|
165
+143%
|
Metro Exodus | 56
−188%
|
161
+188%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−86.5%
|
450−500
+86.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−94.1%
|
190−200
+94.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−265%
|
146
+265%
|
Far Cry 5 | 105
−78.1%
|
187
+78.1%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−154%
|
290
+154%
|
Forza Horizon 5 | 71
−83.1%
|
130−140
+83.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−218%
|
242
+218%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−43.8%
|
150−160
+43.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−134%
|
75−80
+134%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−215%
|
60−65
+215%
|
Grand Theft Auto V | 64
−191%
|
186
+191%
|
Metro Exodus | 34
−218%
|
108
+218%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−270%
|
200
+270%
|
Valorant | 240−250
−37.8%
|
300−350
+37.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−116%
|
130−140
+116%
|
Counter-Strike 2 | 8
−588%
|
55
+588%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−421%
|
73
+421%
|
Dota 2 | 86
−84.9%
|
159
+84.9%
|
Far Cry 5 | 51
−212%
|
159
+212%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−199%
|
227
+199%
|
Forza Horizon 5 | 36
−80.6%
|
65−70
+80.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−74.5%
|
95−100
+74.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−51.9%
|
75−80
+51.9%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6600 XT และ RX 7900 XTX แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 84% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 119% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 135% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 588%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.79 | 80.55 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 กรกฎาคม 2021 | 3 พฤศจิกายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 160 วัตต์ | 355 วัตต์ |
RX 6600 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 121.9%
ในทางกลับกัน RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 88.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6600 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ