GeForce GTX 1650 Max-Q เทียบกับ Radeon 520
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 520 และ GeForce GTX 1650 Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1650 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 520 อย่างมหาศาลถึง 690% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 890 | 342 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 2.82 | 37.06 |
สถาปัตยกรรม | GCN 1.0 (2011−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Banks | TU117 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 320 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1030 MHz | 930 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1125 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 690 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 30 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 20.60 | 72.00 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.6592 TFLOPS | 2.304 TFLOPS |
ROPs | 8 | 32 |
TMUs | 20 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1125 MHz | 1751 MHz |
36 จีบี/s | 112.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 15
−300%
| 60
+300%
|
1440p | 3−4
−900%
| 30
+900%
|
4K | 2−3
−800%
| 18
+800%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 5−6
−680%
|
35−40
+680%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−250%
|
27−30
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−700%
|
30−35
+700%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 5−6
−680%
|
35−40
+680%
|
Battlefield 5 | 5−6
−1180%
|
64
+1180%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−250%
|
27−30
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−700%
|
30−35
+700%
|
Far Cry 5 | 2−3
−1800%
|
38
+1800%
|
Fortnite | 8−9
−1625%
|
138
+1625%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−640%
|
74
+640%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−1950%
|
40−45
+1950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−673%
|
85
+673%
|
Valorant | 35−40
−215%
|
120−130
+215%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−680%
|
35−40
+680%
|
Battlefield 5 | 5−6
−980%
|
54
+980%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−250%
|
27−30
+250%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 35−40
−328%
|
167
+328%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−700%
|
30−35
+700%
|
Dota 2 | 19
−395%
|
94
+395%
|
Far Cry 5 | 2−3
−1650%
|
35
+1650%
|
Fortnite | 8−9
−900%
|
80
+900%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−590%
|
69
+590%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−1950%
|
40−45
+1950%
|
Grand Theft Auto V | 4−5
−1300%
|
56
+1300%
|
Metro Exodus | 3−4
−833%
|
28
+833%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−545%
|
71
+545%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−430%
|
53
+430%
|
Valorant | 35−40
−215%
|
120−130
+215%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 5−6
−880%
|
49
+880%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−250%
|
27−30
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−700%
|
30−35
+700%
|
Dota 2 | 18
−389%
|
88
+389%
|
Far Cry 5 | 2−3
−1550%
|
33
+1550%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−450%
|
55
+450%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−1950%
|
40−45
+1950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−382%
|
53
+382%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6
−400%
|
30
+400%
|
Valorant | 35−40
−215%
|
120−130
+215%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−638%
|
59
+638%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 12−14
−762%
|
110−120
+762%
|
Grand Theft Auto V | 0−1 | 24−27 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−957%
|
140−150
+957%
|
Valorant | 14−16
−1000%
|
150−160
+1000%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 2−3
−800%
|
18−20
+800%
|
Cyberpunk 2077 | 1−2
−1300%
|
14−16
+1300%
|
Far Cry 5 | 3−4
−1000%
|
30−35
+1000%
|
Forza Horizon 4 | 4−5
−825%
|
35−40
+825%
|
Forza Horizon 5 | 1−2
−2600%
|
27−30
+2600%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 3−4
−700%
|
24−27
+700%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 3−4
−1100%
|
36
+1100%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 2−3
−500%
|
12−14
+500%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−86.7%
|
27−30
+86.7%
|
Valorant | 10−11
−730%
|
80−85
+730%
|
4K
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 0−1 | 6−7 |
Dota 2 | 4−5
−1250%
|
50−55
+1250%
|
Far Cry 5 | 2−3
−700%
|
16−18
+700%
|
Forza Horizon 4 | 0−1 | 24−27 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 3−4
−467%
|
17
+467%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 3−4
−267%
|
11
+267%
|
1440p
High Preset
Metro Exodus | 16
+0%
|
16
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
+0%
|
36
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 7−8
+0%
|
7−8
+0%
|
Metro Exodus | 10
+0%
|
10
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
+0%
|
18
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
+0%
|
19
+0%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+0%
|
7−8
+0%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
+0%
|
12−14
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 520 และ GTX 1650 Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 300% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 900% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 800% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 2600%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (88%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 2.02 | 15.95 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 23 เมษายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 30 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 689.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 520 ในการทดสอบประสิทธิภาพ