Radeon RX 7700 XT เทียบกับ GeForce RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 และ Radeon RX 7700 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7700 XT อย่างน่าประทับใจ 54% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 43 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.11 | 71.43 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.34 | 16.39 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7700 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 อยู่ 145%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 3456 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 1435 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2544 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 245 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 549.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 35.17 TFLOPS |
ROPs | 112 | 96 |
TMUs | 304 | 216 |
Tensor Cores | 304 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 76 | 54 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 2250 MHz |
716.8 จีบี/s | 432.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+24.5%
| 188
−24.5%
|
1440p | 163
+59.8%
| 102
−59.8%
|
4K | 107
+87.7%
| 57
−87.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12
−115%
| 2.39
+115%
|
1440p | 7.36
−67.1%
| 4.40
+67.1%
|
4K | 11.21
−42.3%
| 7.88
+42.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
−10%
|
265
+10%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+15.9%
|
176
−15.9%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+19.7%
|
193
−19.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+14.1%
|
199
−14.1%
|
Battlefield 5 | 190−200
+24.7%
|
150−160
−24.7%
|
Counter-Strike 2 | 217
+49.7%
|
145
−49.7%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+46.2%
|
158
−46.2%
|
Far Cry 5 | 223
+18.6%
|
188
−18.6%
|
Fortnite | 300−350
+26.4%
|
230−240
−26.4%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+23.7%
|
278
−23.7%
|
Forza Horizon 5 | 249
+56.6%
|
150−160
−56.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 550−600
+86.1%
|
290−300
−86.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
+72.3%
|
119
−72.3%
|
Battlefield 5 | 190−200
+24.7%
|
150−160
−24.7%
|
Counter-Strike 2 | 202
+66.9%
|
121
−66.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+59.1%
|
132
−59.1%
|
Dota 2 | 249
+55.6%
|
160−170
−55.6%
|
Far Cry 5 | 218
+20.4%
|
181
−20.4%
|
Fortnite | 300−350
+26.4%
|
230−240
−26.4%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+26.5%
|
272
−26.5%
|
Forza Horizon 5 | 239
+50.3%
|
150−160
−50.3%
|
Grand Theft Auto V | 178
+7.2%
|
166
−7.2%
|
Metro Exodus | 213
+40.1%
|
152
−40.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+84.7%
|
295
−84.7%
|
Valorant | 550−600
+86.1%
|
290−300
−86.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+24.7%
|
150−160
−24.7%
|
Counter-Strike 2 | 170
+54.5%
|
110
−54.5%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+55.7%
|
122
−55.7%
|
Dota 2 | 233
+55.3%
|
150−160
−55.3%
|
Far Cry 5 | 204
+22.2%
|
167
−22.2%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+48.9%
|
231
−48.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+54.2%
|
168
−54.2%
|
Valorant | 575
+94.3%
|
290−300
−94.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+26.4%
|
230−240
−26.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+180%
|
45−50
−180%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+33.7%
|
350−400
−33.7%
|
Grand Theft Auto V | 162
+54.3%
|
105
−54.3%
|
Metro Exodus | 154
+71.1%
|
90
−71.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+45.2%
|
300−350
−45.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+48.5%
|
130−140
−48.5%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+61.3%
|
80
−61.3%
|
Far Cry 5 | 201
+28%
|
157
−28%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+55.3%
|
197
−55.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+59.2%
|
120
−59.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0.7%
|
150−160
−0.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+95.7%
|
45−50
−95.7%
|
Counter-Strike 2 | 82
+165%
|
30−35
−165%
|
Grand Theft Auto V | 185
+65.2%
|
112
−65.2%
|
Metro Exodus | 104
+82.5%
|
57
−82.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+110%
|
89
−110%
|
Valorant | 300−350
+7.8%
|
300−350
−7.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+49.5%
|
90−95
−49.5%
|
Counter-Strike 2 | 29
+81.3%
|
16
−81.3%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+75%
|
36
−75%
|
Dota 2 | 227
+62.1%
|
140−150
−62.1%
|
Far Cry 5 | 140
+70.7%
|
82
−70.7%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+127%
|
134
−127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+2.1%
|
90−95
−2.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RX 7700 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 24% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 60% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 88% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 180%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7700 XT เร็วกว่า 10%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (89%)
- RX 7700 XT เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 88.80 | 57.61 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 245 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 54.1% และ
ในทางกลับกัน RX 7700 XT มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 11 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 30.6%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7700 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ