RTX A1000 Mobile เทียบกับ GeForce RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 กับ RTX A1000 Mobile รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A1000 Mobile อย่างมหาศาลถึง 261% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 227 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.11 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.34 | 28.55 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | GA107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มีนาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 630 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 1140 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 60 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 72.96 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 4.669 TFLOPS |
ROPs | 112 | 32 |
TMUs | 304 | 64 |
Tensor Cores | 304 | 64 |
Ray Tracing Cores | 76 | 16 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 310 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 3-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 1375 MHz |
716.8 จีบี/s | 176.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.6 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+230%
| 71
−230%
|
1440p | 163
+504%
| 27
−504%
|
4K | 107
+296%
| 27−30
−296%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 7.36 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 11.21 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
+277%
|
60−65
−277%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+209%
|
66
−209%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+279%
|
61
−279%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+255%
|
60−65
−255%
|
Battlefield 5 | 190−200
+112%
|
90−95
−112%
|
Counter-Strike 2 | 217
+334%
|
50
−334%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+362%
|
50
−362%
|
Far Cry 5 | 223
+162%
|
85
−162%
|
Fortnite | 300−350
+160%
|
110−120
−160%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+270%
|
90−95
−270%
|
Forza Horizon 5 | 249
+277%
|
65−70
−277%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+94.5%
|
90−95
−94.5%
|
Valorant | 550−600
+240%
|
160−170
−240%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
+220%
|
60−65
−220%
|
Battlefield 5 | 190−200
+112%
|
90−95
−112%
|
Counter-Strike 2 | 202
+381%
|
42
−381%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+9.4%
|
250−260
−9.4%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+468%
|
37
−468%
|
Dota 2 | 249
+122%
|
112
−122%
|
Far Cry 5 | 218
+176%
|
79
−176%
|
Fortnite | 300−350
+160%
|
110−120
−160%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+270%
|
90−95
−270%
|
Forza Horizon 5 | 239
+262%
|
65−70
−262%
|
Grand Theft Auto V | 178
+95.6%
|
91
−95.6%
|
Metro Exodus | 213
+420%
|
41
−420%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+94.5%
|
90−95
−94.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+541%
|
85
−541%
|
Valorant | 550−600
+240%
|
160−170
−240%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+112%
|
90−95
−112%
|
Counter-Strike 2 | 170
+386%
|
35
−386%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+555%
|
29
−555%
|
Dota 2 | 233
+76.5%
|
132
−76.5%
|
Far Cry 5 | 204
+179%
|
73
−179%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+270%
|
90−95
−270%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+94.5%
|
90−95
−94.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+502%
|
43
−502%
|
Valorant | 575
+255%
|
160−170
−255%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+160%
|
110−120
−160%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+448%
|
21−24
−448%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+213%
|
160−170
−213%
|
Grand Theft Auto V | 162
+286%
|
40−45
−286%
|
Metro Exodus | 154
+542%
|
24
−542%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+140%
|
200−210
−140%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+202%
|
65−70
−202%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+461%
|
21−24
−461%
|
Far Cry 5 | 201
+279%
|
50−55
−279%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+410%
|
60−65
−410%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+390%
|
35−40
−390%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+175%
|
55−60
−175%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+374%
|
18−20
−374%
|
Counter-Strike 2 | 82
+645%
|
10−12
−645%
|
Grand Theft Auto V | 185
+330%
|
40−45
−330%
|
Metro Exodus | 104
+420%
|
20−22
−420%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+434%
|
35−40
−434%
|
Valorant | 300−350
+144%
|
130−140
−144%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+278%
|
35−40
−278%
|
Counter-Strike 2 | 29
+164%
|
10−12
−164%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+530%
|
10−11
−530%
|
Dota 2 | 227
+195%
|
75−80
−195%
|
Far Cry 5 | 140
+419%
|
27−30
−419%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+641%
|
40−45
−641%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+300%
|
24−27
−300%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+216%
|
24−27
−216%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 65−70
+0%
|
65−70
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 21−24
+0%
|
21−24
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RTX A1000 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 230% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 504% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 296% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 645%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 88.80 | 24.58 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 30 มีนาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 60 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 261.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
ในทางกลับกัน RTX A1000 Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 433.3%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A1000 Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX A1000 Mobile เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา