GeForce RTX 5060 เทียบกับ RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 อย่างน่าประทับใจ 61% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 5 | 64 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 26.73 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.27 | 26.44 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 อยู่ 274%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 304 | 120 |
Tensor Cores | 304 | 120 |
Ray Tracing Cores | 76 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 310 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 1750 MHz |
716.8 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 230
+47.4%
| 156
−47.4%
|
1440p | 161
+112%
| 76
−112%
|
4K | 105
+106%
| 51
−106%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.21
−172%
| 1.92
+172%
|
1440p | 7.45
−89.3%
| 3.93
+89.3%
|
4K | 11.42
−94.8%
| 5.86
+94.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+21.7%
|
270−280
−21.7%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+84.8%
|
120−130
−84.8%
|
Dead Island 2 | 300−350
+29.4%
|
230−240
−29.4%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+27.1%
|
150−160
−27.1%
|
Counter-Strike 2 | 320
+17.6%
|
270−280
−17.6%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+84.8%
|
120−130
−84.8%
|
Dead Island 2 | 265
+11.3%
|
230−240
−11.3%
|
Far Cry 5 | 223
−12.1%
|
250
+12.1%
|
Fortnite | 300−350
+33.6%
|
220−230
−33.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+73.7%
|
190−200
−73.7%
|
Forza Horizon 5 | 249
+58.6%
|
150−160
−58.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Valorant | 550−600
+94.7%
|
280−290
−94.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+27.1%
|
150−160
−27.1%
|
Counter-Strike 2 | 317
+16.5%
|
270−280
−16.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+68%
|
120−130
−68%
|
Dead Island 2 | 230
−3.5%
|
230−240
+3.5%
|
Dota 2 | 249
+66%
|
150−160
−66%
|
Far Cry 5 | 218
−4.6%
|
228
+4.6%
|
Fortnite | 300−350
+33.6%
|
220−230
−33.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+73.7%
|
190−200
−73.7%
|
Forza Horizon 5 | 239
+52.2%
|
150−160
−52.2%
|
Grand Theft Auto V | 178
+17.1%
|
150−160
−17.1%
|
Metro Exodus | 213
+66.4%
|
120−130
−66.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+90.6%
|
286
−90.6%
|
Valorant | 550−600
+94.7%
|
280−290
−94.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+27.1%
|
150−160
−27.1%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+52%
|
120−130
−52%
|
Dead Island 2 | 229
−3.9%
|
230−240
+3.9%
|
Dota 2 | 233
+66.4%
|
140−150
−66.4%
|
Far Cry 5 | 204
−4.4%
|
213
+4.4%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+73.7%
|
190−200
−73.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 258
+80.4%
|
143
−80.4%
|
Valorant | 575
+103%
|
280−290
−103%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+33.6%
|
220−230
−33.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 259
+78.6%
|
140−150
−78.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+39.5%
|
350−400
−39.5%
|
Grand Theft Auto V | 162
+48.6%
|
100−110
−48.6%
|
Metro Exodus | 154
+90.1%
|
80−85
−90.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+52.5%
|
300−350
−52.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+55.6%
|
120−130
−55.6%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+92.5%
|
65−70
−92.5%
|
Dead Island 2 | 227
+87.6%
|
120−130
−87.6%
|
Far Cry 5 | 201
+38.6%
|
145
−38.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+91.3%
|
160−170
−91.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+80.2%
|
106
−80.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+5.6%
|
140−150
−5.6%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 107
+64.6%
|
65−70
−64.6%
|
Dead Island 2 | 89
+61.8%
|
55−60
−61.8%
|
Grand Theft Auto V | 185
+51.6%
|
120−130
−51.6%
|
Metro Exodus | 104
+108%
|
50−55
−108%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+105%
|
91
−105%
|
Valorant | 300−350
+10.7%
|
290−300
−10.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+58.1%
|
85−90
−58.1%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
+93.8%
|
65−70
−93.8%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+103%
|
30−35
−103%
|
Dead Island 2 | 124
+134%
|
50−55
−134%
|
Dota 2 | 227
+62.1%
|
140−150
−62.1%
|
Far Cry 5 | 140
+86.7%
|
75
−86.7%
|
Forza Horizon 4 | 300−310
+168%
|
110−120
−168%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+11.6%
|
85−90
−11.6%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+5.3%
|
75−80
−5.3%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 47% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 112% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 168%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 12%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (89%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 85.34 | 53.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 145 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 60.7% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 120.7%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ