GeForce RTX 5060 เทียบกับ RTX 4080 SUPER
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 SUPER และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 อย่างน่าประทับใจ 65% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 6 | 68 |
จัดอันดับตามความนิยม | 56 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 36.52 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.20 | 25.74 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 SUPER อยู่ 174%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2295 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2550 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 816.0 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 52.22 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 320 | 120 |
Tensor Cores | 320 | 120 |
Ray Tracing Cores | 80 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 310 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1438 MHz | 1750 MHz |
736.3 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 257
+61.6%
| 159
−61.6%
|
1440p | 178
+128%
| 78
−128%
|
4K | 117
+125%
| 52
−125%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.89
−107%
| 1.88
+107%
|
1440p | 5.61
−46.4%
| 3.83
+46.4%
|
4K | 8.54
−48.5%
| 5.75
+48.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 351
+31.5%
|
260−270
−31.5%
|
Cyberpunk 2077 | 249
+106%
|
120−130
−106%
|
Dead Island 2 | 368
+58.6%
|
230−240
−58.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+29.6%
|
150−160
−29.6%
|
Counter-Strike 2 | 344
+28.8%
|
260−270
−28.8%
|
Cyberpunk 2077 | 246
+103%
|
120−130
−103%
|
Dead Island 2 | 353
+52.2%
|
230−240
−52.2%
|
Far Cry 5 | 240
−4.2%
|
250
+4.2%
|
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
Forza Horizon 4 | 344
+79.2%
|
190−200
−79.2%
|
Forza Horizon 5 | 308
+101%
|
150−160
−101%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1.1%
|
170−180
−1.1%
|
Valorant | 500−550
+97.5%
|
270−280
−97.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+29.6%
|
150−160
−29.6%
|
Counter-Strike 2 | 339
+27%
|
260−270
−27%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 238
+96.7%
|
120−130
−96.7%
|
Dead Island 2 | 314
+35.3%
|
230−240
−35.3%
|
Far Cry 5 | 227
−0.4%
|
228
+0.4%
|
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
Forza Horizon 4 | 342
+78.1%
|
190−200
−78.1%
|
Forza Horizon 5 | 285
+86.3%
|
150−160
−86.3%
|
Grand Theft Auto V | 179
+19.3%
|
150−160
−19.3%
|
Metro Exodus | 227
+83.1%
|
120−130
−83.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1.1%
|
170−180
−1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 547
+91.3%
|
286
−91.3%
|
Valorant | 500−550
+97.5%
|
270−280
−97.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+29.6%
|
150−160
−29.6%
|
Cyberpunk 2077 | 199
+64.5%
|
120−130
−64.5%
|
Dead Island 2 | 279
+20.3%
|
230−240
−20.3%
|
Far Cry 5 | 212
−0.5%
|
213
+0.5%
|
Forza Horizon 4 | 322
+67.7%
|
190−200
−67.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1.1%
|
170−180
−1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 263
+83.9%
|
143
−83.9%
|
Valorant | 500−550
+97.5%
|
270−280
−97.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 274
+95.7%
|
140−150
−95.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+44.1%
|
350−400
−44.1%
|
Grand Theft Auto V | 169
+59.4%
|
100−110
−59.4%
|
Metro Exodus | 162
+108%
|
75−80
−108%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+56.5%
|
300−350
−56.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+59.3%
|
120−130
−59.3%
|
Cyberpunk 2077 | 128
+100%
|
60−65
−100%
|
Dead Island 2 | 229
+95.7%
|
110−120
−95.7%
|
Far Cry 5 | 208
+43.4%
|
145
−43.4%
|
Forza Horizon 4 | 306
+98.7%
|
150−160
−98.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 221
+108%
|
106
−108%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+8.6%
|
130−140
−8.6%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 134
+113%
|
60−65
−113%
|
Dead Island 2 | 100
+66.7%
|
60−65
−66.7%
|
Grand Theft Auto V | 187
+58.5%
|
110−120
−58.5%
|
Metro Exodus | 106
+116%
|
45−50
−116%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 204
+124%
|
91
−124%
|
Valorant | 300−350
+12.6%
|
290−300
−12.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+63.9%
|
80−85
−63.9%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
+98.4%
|
60−65
−98.4%
|
Cyberpunk 2077 | 61
+103%
|
30−33
−103%
|
Dead Island 2 | 123
+141%
|
50−55
−141%
|
Far Cry 5 | 145
+93.3%
|
75
−93.3%
|
Forza Horizon 4 | 305
+185%
|
100−110
−185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+17.1%
|
80−85
−17.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+8.2%
|
70−75
−8.2%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 SUPER และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 62% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 128% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 125% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 185%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 4%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (92%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 82.84 | 50.31 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มกราคม 2024 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 145 วัตต์ |
RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 64.7% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 120.7%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ