Radeon RX 6600 XT เทียบกับ GeForce RTX 3070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 และ Radeon RX 6600 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 XT อย่างมหาศาล 35% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 48 | 95 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | 75 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 57.54 | 59.44 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.06 | 18.37 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Navi 23 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 30 กรกฎาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6600 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3070 อยู่ 3%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1968 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2589 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 11,060 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 Watt | 160 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 317.4 | 331.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.31 TFLOPS | 10.6 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 184 | 128 |
Tensor Cores | 184 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 46 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 242 mm | 190 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2000 MHz |
448.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 2x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12.0 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
CUDA | 8.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 148
+15.6%
| 128
−15.6%
|
1440p | 100
+37%
| 73
−37%
|
4K | 64
+52.4%
| 42
−52.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.37
−13.9%
| 2.96
+13.9%
|
1440p | 4.99
+4%
| 5.19
−4%
|
4K | 7.80
+15.7%
| 9.02
−15.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 263
+119%
|
120−130
−119%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
+25.9%
|
220−230
−25.9%
|
Cyberpunk 2077 | 147
+86.1%
|
79
−86.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 196
+63.3%
|
120−130
−63.3%
|
Battlefield 5 | 149
+11.2%
|
130−140
−11.2%
|
Counter-Strike 2 | 330
+47.3%
|
220−230
−47.3%
|
Cyberpunk 2077 | 139
+78.2%
|
78
−78.2%
|
Far Cry 5 | 154
+2%
|
151
−2%
|
Fortnite | 230−240
+38%
|
170−180
−38%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+35.3%
|
150−160
−35.3%
|
Forza Horizon 5 | 159
+0%
|
159
+0%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+14.2%
|
150−160
−14.2%
|
Valorant | 290−300
+28.4%
|
220−230
−28.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 113
−6.2%
|
120−130
+6.2%
|
Battlefield 5 | 132
−1.5%
|
130−140
+1.5%
|
Counter-Strike 2 | 257
+14.7%
|
220−230
−14.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 126
+65.8%
|
76
−65.8%
|
Dota 2 | 133
−27.8%
|
170
+27.8%
|
Far Cry 5 | 148
+5%
|
141
−5%
|
Fortnite | 230−240
+38%
|
170−180
−38%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+35.3%
|
150−160
−35.3%
|
Forza Horizon 5 | 148
+4.2%
|
142
−4.2%
|
Grand Theft Auto V | 139
+3%
|
135
−3%
|
Metro Exodus | 120
+26.3%
|
95
−26.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+14.2%
|
150−160
−14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 230
+30.7%
|
176
−30.7%
|
Valorant | 290−300
+28.4%
|
220−230
−28.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
−12.6%
|
130−140
+12.6%
|
Cyberpunk 2077 | 102
+47.8%
|
69
−47.8%
|
Dota 2 | 125
+4.2%
|
120
−4.2%
|
Far Cry 5 | 141
+6%
|
133
−6%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+35.3%
|
150−160
−35.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+14.2%
|
150−160
−14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 121
+22.2%
|
99
−22.2%
|
Valorant | 237
+3.5%
|
220−230
−3.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
+38%
|
170−180
−38%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 167
+62.1%
|
100−110
−62.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+40.7%
|
270−280
−40.7%
|
Grand Theft Auto V | 98
+44.1%
|
68
−44.1%
|
Metro Exodus | 75
+33.9%
|
56
−33.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
+27.3%
|
260−270
−27.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
+2%
|
100−110
−2%
|
Cyberpunk 2077 | 62
+55%
|
40
−55%
|
Far Cry 5 | 125
+19%
|
105
−19%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
+48.2%
|
110−120
−48.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+52%
|
75−80
−52%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+42.9%
|
100−110
−42.9%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
+43.8%
|
30−35
−43.8%
|
Counter-Strike 2 | 43
−9.3%
|
45−50
+9.3%
|
Grand Theft Auto V | 117
+82.8%
|
64
−82.8%
|
Metro Exodus | 49
+44.1%
|
34
−44.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
+66.7%
|
54
−66.7%
|
Valorant | 300−350
+27.4%
|
240−250
−27.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70
+11.1%
|
60−65
−11.1%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+46.8%
|
45−50
−46.8%
|
Cyberpunk 2077 | 30
+114%
|
14
−114%
|
Dota 2 | 125
+45.3%
|
86
−45.3%
|
Far Cry 5 | 70
+37.3%
|
51
−37.3%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+57.9%
|
75−80
−57.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
+69.1%
|
55−60
−69.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+50%
|
50−55
−50%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 และ RX 6600 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 เร็วกว่า 37% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 119%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6600 XT เร็วกว่า 28%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (87%)
- RX 6600 XT เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 49.85 | 36.87 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 30 กรกฎาคม 2021 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 วัตต์ | 160 วัตต์ |
RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 35.2%
ในทางกลับกัน RX 6600 XT มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 10 เดือนและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 37.5%
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6600 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ