Radeon Pro W6800 เทียบกับ GeForce RTX 3060 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 Ti กับ Radeon Pro W6800 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro W6800 อย่างน้อย 3% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 53 | 55 |
จัดอันดับตามความนิยม | 25 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 68.00 | 25.79 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.22 | 14.15 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $2,249 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 164%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4864 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1410 MHz | 2075 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2320 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 253.1 | 556.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.2 TFLOPS | 17.82 TFLOPS |
ROPs | 80 | 96 |
TMUs | 152 | 240 |
Tensor Cores | 152 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 38 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2000 MHz |
448.0 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 6x mini-DisplayPort |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 144
+5.1%
| 137
−5.1%
|
1440p | 80
−45%
| 116
+45%
|
4K | 50
−68%
| 84
+68%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.77
+492%
| 16.42
−492%
|
1440p | 4.99
+289%
| 19.39
−289%
|
4K | 7.98
+236%
| 26.77
−236%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 236
+59.5%
|
140−150
−59.5%
|
Counter-Strike 2 | 161
+38.8%
|
110−120
−38.8%
|
Cyberpunk 2077 | 132
+14.8%
|
110−120
−14.8%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 180
+21.6%
|
140−150
−21.6%
|
Battlefield 5 | 145
−2.1%
|
140−150
+2.1%
|
Counter-Strike 2 | 124
+6.9%
|
110−120
−6.9%
|
Cyberpunk 2077 | 113
−1.8%
|
110−120
+1.8%
|
Far Cry 5 | 144
+106%
|
70
−106%
|
Fortnite | 210−220
+3.4%
|
200−210
−3.4%
|
Forza Horizon 4 | 200
+9.3%
|
180−190
−9.3%
|
Forza Horizon 5 | 176
+24.8%
|
140−150
−24.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Valorant | 270−280
+2.7%
|
260−270
−2.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 103
−43.7%
|
140−150
+43.7%
|
Battlefield 5 | 124
−19.4%
|
140−150
+19.4%
|
Counter-Strike 2 | 106
−9.4%
|
110−120
+9.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 95
−21.1%
|
110−120
+21.1%
|
Dota 2 | 145
+46.5%
|
99
−46.5%
|
Far Cry 5 | 137
+111%
|
65
−111%
|
Fortnite | 210−220
+3.4%
|
200−210
−3.4%
|
Forza Horizon 4 | 196
+7.1%
|
180−190
−7.1%
|
Forza Horizon 5 | 158
+12.1%
|
140−150
−12.1%
|
Grand Theft Auto V | 141
+16.5%
|
121
−16.5%
|
Metro Exodus | 110
−45.5%
|
160
+45.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 185
−7.6%
|
199
+7.6%
|
Valorant | 270−280
+2.7%
|
260−270
−2.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 114
−29.8%
|
140−150
+29.8%
|
Counter-Strike 2 | 97
−19.6%
|
110−120
+19.6%
|
Cyberpunk 2077 | 84
−36.9%
|
110−120
+36.9%
|
Dota 2 | 135
+57%
|
86
−57%
|
Far Cry 5 | 129
+108%
|
62
−108%
|
Forza Horizon 4 | 173
−5.8%
|
180−190
+5.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 92
−70.7%
|
157
+70.7%
|
Valorant | 274
+3.8%
|
260−270
−3.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 210−220
+3.4%
|
200−210
−3.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+5.4%
|
35−40
−5.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+3.6%
|
300−350
−3.6%
|
Grand Theft Auto V | 97
+10.2%
|
88
−10.2%
|
Metro Exodus | 66
−159%
|
171
+159%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
+2.7%
|
290−300
−2.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 98
−19.4%
|
110−120
+19.4%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−11.1%
|
60−65
+11.1%
|
Far Cry 5 | 105
+64.1%
|
64
−64.1%
|
Forza Horizon 4 | 150
+4.2%
|
140−150
−4.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
+4.1%
|
95−100
−4.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
+3.1%
|
130−140
−3.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+2.5%
|
40−45
−2.5%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+4%
|
24−27
−4%
|
Grand Theft Auto V | 107
−16.8%
|
125
+16.8%
|
Metro Exodus | 43
−27.9%
|
55
+27.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
−28.6%
|
99
+28.6%
|
Valorant | 280−290
+2.1%
|
280−290
−2.1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65
−20%
|
75−80
+20%
|
Counter-Strike 2 | 15
−66.7%
|
24−27
+66.7%
|
Cyberpunk 2077 | 25
−12%
|
27−30
+12%
|
Dota 2 | 109
+16%
|
94
−16%
|
Far Cry 5 | 65
+8.3%
|
60
−8.3%
|
Forza Horizon 4 | 103
+4%
|
95−100
−4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
+5.3%
|
75−80
−5.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 70−75
+2.9%
|
65−70
−2.9%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 Ti และ Pro W6800 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 45% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 68% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 111%
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 159%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 40การทดสอบ (63%)
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 22การทดสอบ (34%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 53.00 | 51.47 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 ธันวาคม 2020 | 8 มิถุนายน 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 วัตต์ | 250 วัตต์ |
RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 3% และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 25%
ในทางกลับกัน Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3060 Ti และ Radeon Pro W6800 ได้อย่างชัดเจน
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3060 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน