Radeon Pro W6800 เทียบกับ GeForce RTX 3070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 Ti กับ Radeon Pro W6800 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro W6800 อย่างปานกลาง 19% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 32 | 51 |
จัดอันดับตามความนิยม | 88 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 52.68 | 24.61 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.58 | 14.26 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $599 | $2,249 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 114%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1575 MHz | 2075 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2320 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 556.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 17.82 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 192 | 240 |
Tensor Cores | 192 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 48 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2000 MHz |
608.3 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 6x mini-DisplayPort |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
CUDA | 8.6 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 176
+12.1%
| 157
−12.1%
|
1440p | 94
−27.7%
| 120
+27.7%
|
4K | 62
−50%
| 93
+50%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.40
−321%
| 14.32
+321%
|
1440p | 6.37
−194%
| 18.74
+194%
|
4K | 9.66
−150%
| 24.18
+150%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 174
+83.2%
|
95−100
−83.2%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 171
+58.3%
|
100−110
−58.3%
|
Assassin's Creed Valhalla | 100−110
+20%
|
90−95
−20%
|
Battlefield 5 | 190−200
+18.9%
|
160−170
−18.9%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 110−120
+13%
|
100−105
−13%
|
Cyberpunk 2077 | 138
+45.3%
|
95−100
−45.3%
|
Far Cry 5 | 110−120
+8.7%
|
100−110
−8.7%
|
Far Cry New Dawn | 140−150
+18.4%
|
120−130
−18.4%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+6%
|
210−220
−6%
|
Hitman 3 | 120−130
+12.8%
|
100−110
−12.8%
|
Horizon Zero Dawn | 220−230
+13.9%
|
200−210
−13.9%
|
Metro Exodus | 150−160
+5.4%
|
140−150
−5.4%
|
Red Dead Redemption 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
Shadow of the Tomb Raider | 240−250
+24.5%
|
200−210
−24.5%
|
Watch Dogs: Legion | 140−150
+4.2%
|
140−150
−4.2%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 120−130
+17.6%
|
100−110
−17.6%
|
Assassin's Creed Valhalla | 100−110
+20%
|
90−95
−20%
|
Battlefield 5 | 190−200
+18.9%
|
160−170
−18.9%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 110−120
+13%
|
100−105
−13%
|
Cyberpunk 2077 | 121
+27.4%
|
95−100
−27.4%
|
Far Cry 5 | 110−120
+8.7%
|
100−110
−8.7%
|
Far Cry New Dawn | 140−150
+18.4%
|
120−130
−18.4%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+6%
|
210−220
−6%
|
Hitman 3 | 120−130
+12.8%
|
100−110
−12.8%
|
Horizon Zero Dawn | 220−230
+13.9%
|
200−210
−13.9%
|
Metro Exodus | 150−160
+5.4%
|
140−150
−5.4%
|
Red Dead Redemption 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
Shadow of the Tomb Raider | 316
+14.1%
|
277
−14.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 120−130
+21.7%
|
100−110
−21.7%
|
Watch Dogs: Legion | 140−150
+4.2%
|
140−150
−4.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 103
−4.9%
|
100−110
+4.9%
|
Assassin's Creed Valhalla | 100−110
+20%
|
90−95
−20%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 110−120
+13%
|
100−105
−13%
|
Cyberpunk 2077 | 111
+16.8%
|
95−100
−16.8%
|
Far Cry 5 | 110−120
+8.7%
|
100−110
−8.7%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+6%
|
210−220
−6%
|
Hitman 3 | 120−130
+12.8%
|
100−110
−12.8%
|
Horizon Zero Dawn | 243
+8%
|
225
−8%
|
Shadow of the Tomb Raider | 274
+2.2%
|
268
−2.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 147
−6.8%
|
157
+6.8%
|
Watch Dogs: Legion | 108
−32.4%
|
140−150
+32.4%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 130−140
+28.3%
|
100−110
−28.3%
|
Far Cry New Dawn | 95−100
+20%
|
80−85
−20%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 93
+60.3%
|
55−60
−60.3%
|
Assassin's Creed Valhalla | 75−80
+23%
|
60−65
−23%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 70−75
+18%
|
60−65
−18%
|
Cyberpunk 2077 | 73
+55.3%
|
45−50
−55.3%
|
Far Cry 5 | 70−75
+18.3%
|
60−65
−18.3%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+3.8%
|
260−270
−3.8%
|
Hitman 3 | 85−90
+23.9%
|
70−75
−23.9%
|
Horizon Zero Dawn | 184
+2.8%
|
179
−2.8%
|
Metro Exodus | 135
+145%
|
55
−145%
|
Shadow of the Tomb Raider | 205
−3.4%
|
212
+3.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
+26.5%
|
80−85
−26.5%
|
Watch Dogs: Legion | 230−240
+5.9%
|
220−230
−5.9%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 100−110
+16.9%
|
85−90
−16.9%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 70−75
+29.1%
|
55−60
−29.1%
|
Far Cry New Dawn | 55−60
+25.5%
|
45−50
−25.5%
|
Hitman 3 | 50−55
+20.9%
|
40−45
−20.9%
|
Horizon Zero Dawn | 220−230
+5.7%
|
210−220
−5.7%
|
Metro Exodus | 90−95
+26.4%
|
70−75
−26.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
+10.1%
|
99
−10.1%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 58
+52.6%
|
35−40
−52.6%
|
Assassin's Creed Valhalla | 45−50
+27.8%
|
35−40
−27.8%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 40−45
+25.7%
|
35−40
−25.7%
|
Cyberpunk 2077 | 36
+71.4%
|
21−24
−71.4%
|
Far Cry 5 | 40−45
+27.3%
|
30−35
−27.3%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+27.6%
|
75−80
−27.6%
|
Shadow of the Tomb Raider | 119
−5.9%
|
126
+5.9%
|
Watch Dogs: Legion | 46
+58.6%
|
27−30
−58.6%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 60−65
+26.5%
|
45−50
−26.5%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 Ti และ Pro W6800 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 28% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3070 Ti เร็วกว่า 145%
- ในเกม Watch Dogs: Legion ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 32%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เหนือกว่าใน 67การทดสอบ (93%)
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (7%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 61.12 | 51.56 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 วัตต์ | 250 วัตต์ |
RTX 3070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 18.5%
ในทางกลับกัน Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16%
GeForce RTX 3070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro W6800 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ