GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ RTX 2080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2080 อย่างน่าประทับใจ 60% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 69 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 26.72 | 67.54 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.56 | 24.39 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU104 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 อยู่ 153%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2944 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1515 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 215 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 314.6 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.07 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 184 | 224 |
Tensor Cores | 368 | 224 |
Ray Tracing Cores | 46 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
448.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 147
−50.3%
| 221
+50.3%
|
1440p | 105
−30.5%
| 137
+30.5%
|
4K | 75
−8%
| 81
+8%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.76
−75.4%
| 2.71
+75.4%
|
1440p | 6.66
−52.3%
| 4.37
+52.3%
|
4K | 9.32
−26%
| 7.40
+26%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 130−140
−58.3%
|
220−230
+58.3%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−70.6%
|
186
+70.6%
|
Cyberpunk 2077 | 100−110
−81.5%
|
196
+81.5%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 130−140
−58.3%
|
220−230
+58.3%
|
Battlefield 5 | 163
−14.1%
|
180−190
+14.1%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−67%
|
182
+67%
|
Cyberpunk 2077 | 100−110
−70.4%
|
184
+70.4%
|
Far Cry 5 | 117
−73.5%
|
203
+73.5%
|
Fortnite | 199
−51.8%
|
300−350
+51.8%
|
Forza Horizon 4 | 156
−88.5%
|
290−300
+88.5%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
−55.6%
|
200−210
+55.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 209
+18.1%
|
170−180
−18.1%
|
Valorant | 263
−63.1%
|
400−450
+63.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 130−140
−58.3%
|
220−230
+58.3%
|
Battlefield 5 | 155
−20%
|
180−190
+20%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−45.9%
|
159
+45.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 100−110
−47.2%
|
159
+47.2%
|
Dota 2 | 140−150
−54.4%
|
230−240
+54.4%
|
Far Cry 5 | 112
−78.6%
|
200
+78.6%
|
Fortnite | 173
−74.6%
|
300−350
+74.6%
|
Forza Horizon 4 | 153
−92.2%
|
290−300
+92.2%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
−55.6%
|
200−210
+55.6%
|
Grand Theft Auto V | 131
−32.1%
|
173
+32.1%
|
Metro Exodus | 90
−106%
|
185
+106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 188
+6.2%
|
170−180
−6.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
−128%
|
412
+128%
|
Valorant | 254
−68.9%
|
400−450
+68.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 145
−28.3%
|
180−190
+28.3%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−27.5%
|
139
+27.5%
|
Cyberpunk 2077 | 100−110
−33.3%
|
144
+33.3%
|
Dota 2 | 140−150
−54.4%
|
230−240
+54.4%
|
Far Cry 5 | 106
−79.2%
|
190
+79.2%
|
Forza Horizon 4 | 132
−123%
|
290−300
+123%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
−57.9%
|
210−220
+57.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 169
−4.7%
|
170−180
+4.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 106
−89.6%
|
201
+89.6%
|
Valorant | 223
−92.4%
|
400−450
+92.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 156
−93.6%
|
300−350
+93.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−143%
|
85−90
+143%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−65.4%
|
500−550
+65.4%
|
Grand Theft Auto V | 90−95
−57.4%
|
148
+57.4%
|
Metro Exodus | 60
−96.7%
|
118
+96.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 247
−96.4%
|
450−500
+96.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 125
−53.6%
|
190−200
+53.6%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
−64.3%
|
92
+64.3%
|
Far Cry 5 | 99
−84.8%
|
183
+84.8%
|
Forza Horizon 4 | 118
−119%
|
250−260
+119%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−50%
|
120−130
+50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−71.1%
|
154
+71.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 128
−18%
|
150−160
+18%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−91.9%
|
70−75
+91.9%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−152%
|
55−60
+152%
|
Grand Theft Auto V | 107
−55.1%
|
166
+55.1%
|
Metro Exodus | 39
−89.7%
|
74
+89.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 76
−75%
|
133
+75%
|
Valorant | 234
−41.9%
|
300−350
+41.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
−78.9%
|
130−140
+78.9%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
+21.1%
|
19
−21.1%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−69.2%
|
44
+69.2%
|
Dota 2 | 120−130
−55.7%
|
190−200
+55.7%
|
Far Cry 5 | 59
−74.6%
|
103
+74.6%
|
Forza Horizon 4 | 81
−169%
|
210−220
+169%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−53.8%
|
80−85
+53.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
−39.1%
|
95−100
+39.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65
−21.5%
|
75−80
+21.5%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 21%
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 169%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (92%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 48.68 | 78.04 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2018 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 215 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 60.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2080 ในการทดสอบประสิทธิภาพ