GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ RTX 2080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Ti และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2080 Ti อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 45 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 13 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.78 | 67.34 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.55 | 24.48 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 Ti อยู่ 209%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4352 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1545 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.2 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.45 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 88 | 80 |
TMUs | 272 | 224 |
Tensor Cores | 544 | 224 |
Ray Tracing Cores | 68 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 352 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
616.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 165
−32.1%
| 218
+32.1%
|
1440p | 122
−17.2%
| 143
+17.2%
|
4K | 93
+8.1%
| 86
−8.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.05
−120%
| 2.75
+120%
|
1440p | 8.19
−95.5%
| 4.19
+95.5%
|
4K | 10.74
−54.2%
| 6.97
+54.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
−44.2%
|
186
+44.2%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
−33.9%
|
170−180
+33.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 85
−37.6%
|
110−120
+37.6%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−41.1%
|
182
+41.1%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−31.6%
|
75−80
+31.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−310
−44.7%
|
434
+44.7%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−46.5%
|
200−210
+46.5%
|
Metro Exodus | 110
−40%
|
150−160
+40%
|
Red Dead Redemption 2 | 106
−36.8%
|
140−150
+36.8%
|
Valorant | 290
−51.4%
|
400−450
+51.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 235
+101%
|
110−120
−101%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−23.3%
|
159
+23.3%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−29.6%
|
70−75
+29.6%
|
Dota 2 | 138
−25.4%
|
173
+25.4%
|
Far Cry 5 | 92
−65.2%
|
152
+65.2%
|
Fortnite | 224
−37.5%
|
300−350
+37.5%
|
Forza Horizon 4 | 300−310
−42.7%
|
428
+42.7%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−46.5%
|
200−210
+46.5%
|
Grand Theft Auto V | 134
−29.1%
|
173
+29.1%
|
Metro Exodus | 100
+35.1%
|
74
−35.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 249
+15.8%
|
210−220
−15.8%
|
Red Dead Redemption 2 | 90
−61.1%
|
140−150
+61.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 170
−158%
|
400−450
+158%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 74
−58.1%
|
110−120
+58.1%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−7.8%
|
139
+7.8%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−35.4%
|
65−70
+35.4%
|
Dota 2 | 141
−34.8%
|
190−200
+34.8%
|
Far Cry 5 | 110−120
−27.8%
|
140−150
+27.8%
|
Forza Horizon 4 | 300−310
−27%
|
381
+27%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−46.5%
|
200−210
+46.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 183
−17.5%
|
210−220
+17.5%
|
Valorant | 259
−69.5%
|
400−450
+69.5%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 110−120
−34.5%
|
148
+34.5%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
−34.5%
|
148
+34.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 63
−47.6%
|
90−95
+47.6%
|
World of Tanks | 350−400
−40.6%
|
500−550
+40.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 74
−17.6%
|
85−90
+17.6%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−27.9%
|
87
+27.9%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−25%
|
40−45
+25%
|
Far Cry 5 | 160−170
+0%
|
160−170
+0%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−44.8%
|
265
+44.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−57%
|
150−160
+57%
|
Metro Exodus | 98
−39.8%
|
130−140
+39.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−35.1%
|
154
+35.1%
|
Valorant | 204
−80.9%
|
350−400
+80.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 65−70
−56.9%
|
100−110
+56.9%
|
Dota 2 | 142
−16.9%
|
166
+16.9%
|
Grand Theft Auto V | 142
−16.9%
|
166
+16.9%
|
Metro Exodus | 51
−45.1%
|
74
+45.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 209
+0%
|
200−210
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 42
−52.4%
|
60−65
+52.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 142
−16.9%
|
166
+16.9%
|
World of Tanks | 270
−29.6%
|
350−400
+29.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 62
−46.8%
|
90−95
+46.8%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−56.9%
|
100−110
+56.9%
|
Cyberpunk 2077 | 16
−31.3%
|
21−24
+31.3%
|
Dota 2 | 139
−36.7%
|
190−200
+36.7%
|
Far Cry 5 | 105
+0%
|
100−110
+0%
|
Fortnite | 96
+0%
|
95−100
+0%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−28.2%
|
132
+28.2%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−66.7%
|
100−105
+66.7%
|
Valorant | 113
−90.3%
|
210−220
+90.3%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Ti และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 17% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Ti เร็วกว่า 101%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 158%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 46การทดสอบ (82%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 56.41 | 78.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2018 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 38.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 13.6%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2080 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ