Radeon 520 เทียบกับ GeForce GTX 970M SLI
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 970M SLI และ Radeon 520 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 970M SLI มีประสิทธิภาพดีกว่า 520 อย่างมหาศาลถึง 1094% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 236 | 890 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.34 | 2.80 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell (2014−2017) | GCN 1.0 (2011−2020) |
ชื่อรหัส GPU | ไม่มีข้อมูล | Banks |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 320 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 924 MHz | 1030 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 2x 5200 Million | 690 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 162 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | ไม่มีข้อมูล | 20.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | ไม่มีข้อมูล | 0.6592 TFLOPS |
ROPs | ไม่มีข้อมูล | 8 |
TMUs | ไม่มีข้อมูล | 20 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | ไม่มีข้อมูล | PCIe 3.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2x 6 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2x 192 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 5000 MHz | 1125 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 36 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | ไม่มีข้อมูล | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_1 | 12 (11_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | ไม่มีข้อมูล | 5.1 |
OpenGL | ไม่มีข้อมูล | 4.6 |
OpenCL | ไม่มีข้อมูล | 1.2 |
Vulkan | - | 1.2.131 |
CUDA | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 88
+487%
| 15
−487%
|
4K | 41
+1267%
| 3−4
−1267%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 60−65
+1160%
|
5−6
−1160%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+463%
|
8−9
−463%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1125%
|
4−5
−1125%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 60−65
+1160%
|
5−6
−1160%
|
Battlefield 5 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+463%
|
8−9
−463%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1125%
|
4−5
−1125%
|
Far Cry 5 | 75−80
+3750%
|
2−3
−3750%
|
Fortnite | 110−120
+1338%
|
8−9
−1338%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+820%
|
10−11
−820%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+3150%
|
2−3
−3150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
+709%
|
10−12
−709%
|
Valorant | 160−170
+310%
|
35−40
−310%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 60−65
+1160%
|
5−6
−1160%
|
Battlefield 5 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+463%
|
8−9
−463%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
+546%
|
35−40
−546%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1125%
|
4−5
−1125%
|
Dota 2 | 110−120
+526%
|
19
−526%
|
Far Cry 5 | 75−80
+3750%
|
2−3
−3750%
|
Fortnite | 110−120
+1338%
|
8−9
−1338%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+820%
|
10−11
−820%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+3150%
|
2−3
−3150%
|
Grand Theft Auto V | 80−85
+2000%
|
4−5
−2000%
|
Metro Exodus | 50−55
+1567%
|
3−4
−1567%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
+709%
|
10−12
−709%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 85
+750%
|
10
−750%
|
Valorant | 160−170
+310%
|
35−40
−310%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
+1740%
|
5−6
−1740%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+463%
|
8−9
−463%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1125%
|
4−5
−1125%
|
Dota 2 | 110−120
+561%
|
18
−561%
|
Far Cry 5 | 75−80
+3750%
|
2−3
−3750%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+820%
|
10−11
−820%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+3150%
|
2−3
−3150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
+709%
|
10−12
−709%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+700%
|
6
−700%
|
Valorant | 160−170
+310%
|
35−40
−310%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
+1338%
|
8−9
−1338%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+2200%
|
1−2
−2200%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
+1146%
|
12−14
−1146%
|
Grand Theft Auto V | 40−45 | 0−1 |
Metro Exodus | 30−33
+1400%
|
2−3
−1400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1150%
|
14−16
−1150%
|
Valorant | 190−200
+1321%
|
14−16
−1321%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+1180%
|
5−6
−1180%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+2100%
|
1−2
−2100%
|
Far Cry 5 | 50−55
+1633%
|
3−4
−1633%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+1375%
|
4−5
−1375%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+4000%
|
1−2
−4000%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+1167%
|
3−4
−1167%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+1700%
|
3−4
−1700%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
+800%
|
2−3
−800%
|
Counter-Strike 2 | 10−12 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 40−45
+180%
|
14−16
−180%
|
Metro Exodus | 18−20
+1800%
|
1−2
−1800%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
+1300%
|
2−3
−1300%
|
Valorant | 130−140
+1230%
|
10−11
−1230%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
+1650%
|
2−3
−1650%
|
Counter-Strike 2 | 10−12 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 10−11 | 0−1 |
Dota 2 | 75−80
+1800%
|
4−5
−1800%
|
Far Cry 5 | 24−27
+1200%
|
2−3
−1200%
|
Forza Horizon 4 | 40−45 | 0−1 |
Forza Horizon 5 | 21−24
+2000%
|
1−2
−2000%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
+700%
|
3−4
−700%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
+733%
|
3−4
−733%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 2−3
+0%
|
2−3
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 970M SLI และ Radeon 520 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 970M SLI เร็วกว่า 487% ในความละเอียด 1080p
- GTX 970M SLI เร็วกว่า 1267% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 970M SLI เร็วกว่า 4000%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 970M SLI เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 24.36 | 2.04 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2014 | 18 เมษายน 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 162 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GTX 970M SLI มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1094.1%
ในทางกลับกัน Radeon 520 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 224%
GeForce GTX 970M SLI เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 520 ในการทดสอบประสิทธิภาพ