Radeon RX 7800 XT เทียบกับ GeForce GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างมหาศาลถึง 107% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 194 | 33 |
จัดอันดับตามความนิยม | 44 | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.84 | 67.93 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.39 | 16.46 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 อยู่ 45%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 88 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 2438 MHz |
192.1 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 86
−151%
| 216
+151%
|
1440p | 52
−138%
| 124
+138%
|
4K | 29
−145%
| 71
+145%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.55
−10.2%
| 2.31
+10.2%
|
1440p | 4.21
−4.7%
| 4.02
+4.7%
|
4K | 7.55
−7.4%
| 7.03
+7.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 111
−192%
|
324
+192%
|
Counter-Strike 2 | 72
−235%
|
241
+235%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−249%
|
248
+249%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 83
−193%
|
243
+193%
|
Battlefield 5 | 100−110
−53.3%
|
160−170
+53.3%
|
Counter-Strike 2 | 56
−257%
|
200
+257%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−238%
|
196
+238%
|
Far Cry 5 | 100
−104%
|
204
+104%
|
Fortnite | 130−140
−101%
|
260−270
+101%
|
Forza Horizon 4 | 132
−111%
|
278
+111%
|
Forza Horizon 5 | 86
−221%
|
276
+221%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
Valorant | 306
−4.6%
|
300−350
+4.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 49
−196%
|
145
+196%
|
Battlefield 5 | 100−110
−53.3%
|
160−170
+53.3%
|
Counter-Strike 2 | 48
−240%
|
163
+240%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 47
−247%
|
163
+247%
|
Dota 2 | 219
−105%
|
450−500
+105%
|
Far Cry 5 | 92
−113%
|
196
+113%
|
Fortnite | 130−140
−101%
|
260−270
+101%
|
Forza Horizon 4 | 123
−112%
|
261
+112%
|
Forza Horizon 5 | 63
−306%
|
256
+306%
|
Grand Theft Auto V | 115
−54.8%
|
178
+54.8%
|
Metro Exodus | 57
−202%
|
172
+202%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 102
−259%
|
366
+259%
|
Valorant | 287
−11.5%
|
300−350
+11.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−53.3%
|
160−170
+53.3%
|
Counter-Strike 2 | 43
−247%
|
149
+247%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−275%
|
150
+275%
|
Dota 2 | 197
−103%
|
400−450
+103%
|
Far Cry 5 | 86
−112%
|
182
+112%
|
Forza Horizon 4 | 98
−127%
|
222
+127%
|
Forza Horizon 5 | 59
−103%
|
120−130
+103%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−251%
|
200
+251%
|
Valorant | 115
−178%
|
300−350
+178%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−101%
|
260−270
+101%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−96.2%
|
50−55
+96.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−117%
|
400−450
+117%
|
Grand Theft Auto V | 52
−169%
|
140
+169%
|
Metro Exodus | 33
−221%
|
106
+221%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Valorant | 226
−63.3%
|
350−400
+63.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−85.7%
|
140−150
+85.7%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−313%
|
99
+313%
|
Far Cry 5 | 59
−198%
|
176
+198%
|
Forza Horizon 4 | 76
−166%
|
202
+166%
|
Forza Horizon 5 | 40
−100%
|
80−85
+100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−200%
|
147
+200%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−116%
|
150−160
+116%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−122%
|
50−55
+122%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−177%
|
35−40
+177%
|
Grand Theft Auto V | 49
−210%
|
152
+210%
|
Metro Exodus | 20
−215%
|
63
+215%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−237%
|
118
+237%
|
Valorant | 125
−156%
|
300−350
+156%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−130%
|
100−110
+130%
|
Counter-Strike 2 | 6
−250%
|
21
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−350%
|
45
+350%
|
Dota 2 | 87
−107%
|
180−190
+107%
|
Far Cry 5 | 30
−247%
|
104
+247%
|
Forza Horizon 4 | 50
−228%
|
164
+228%
|
Forza Horizon 5 | 22
−105%
|
45−50
+105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−200%
|
95−100
+200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−139%
|
75−80
+139%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 151% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 138% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 145% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 7800 XT เหนือกว่า GTX 1660 ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.94 | 62.10 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 263 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 119.2%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 107.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ