GeForce RTX 4060 เทียบกับ GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ GeForce RTX 4060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4060 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างน่าประทับใจ 53% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 165 | 58 |
จัดอันดับตามความนิยม | 27 | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.33 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.26 | 30.75 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | AD107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 Ti อยู่ 131%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 48 | 48 |
TMUs | 96 | 96 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 96 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 229 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 2125 MHz |
288.0 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 105
−28.6%
| 135
+28.6%
|
1440p | 60
−10%
| 66
+10%
|
4K | 39
+2.6%
| 38
−2.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.66
−20%
| 2.21
+20%
|
1440p | 4.65
−2.6%
| 4.53
+2.6%
|
4K | 7.15
+10%
| 7.87
−10%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−134%
|
213
+134%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−101%
|
135
+101%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−78.2%
|
139
+78.2%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−74.7%
|
159
+74.7%
|
Battlefield 5 | 129
−14.7%
|
140−150
+14.7%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−62.7%
|
109
+62.7%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−50.7%
|
107
+50.7%
|
Far Cry 5 | 109
−69.7%
|
185
+69.7%
|
Fortnite | 247
+21.1%
|
200−210
−21.1%
|
Forza Horizon 4 | 131
−38.9%
|
180−190
+38.9%
|
Forza Horizon 5 | 94
−153%
|
238
+153%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+15.6%
|
170−180
−15.6%
|
Valorant | 190−200
−34.9%
|
260−270
+34.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
−3.3%
|
94
+3.3%
|
Battlefield 5 | 112
−32.1%
|
140−150
+32.1%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−35.8%
|
91
+35.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−1.1%
|
270−280
+1.1%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−57.9%
|
90
+57.9%
|
Dota 2 | 181
−49.2%
|
270−280
+49.2%
|
Far Cry 5 | 99
−70.7%
|
169
+70.7%
|
Fortnite | 143
−42.7%
|
200−210
+42.7%
|
Forza Horizon 4 | 122
−49.2%
|
180−190
+49.2%
|
Forza Horizon 5 | 72
−207%
|
221
+207%
|
Grand Theft Auto V | 119
−30.3%
|
155
+30.3%
|
Metro Exodus | 55
−94.5%
|
107
+94.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
−15.3%
|
170−180
+15.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
−85.3%
|
215
+85.3%
|
Valorant | 190−200
−34.9%
|
260−270
+34.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
−45.1%
|
140−150
+45.1%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−13.4%
|
76
+13.4%
|
Cyberpunk 2077 | 46
−73.9%
|
80
+73.9%
|
Dota 2 | 168
−48.8%
|
250−260
+48.8%
|
Far Cry 5 | 94
−69.1%
|
159
+69.1%
|
Forza Horizon 4 | 97
−87.6%
|
180−190
+87.6%
|
Forza Horizon 5 | 66
−51.5%
|
100−105
+51.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−34.1%
|
170−180
+34.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
−79%
|
111
+79%
|
Valorant | 118
−123%
|
260−270
+123%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
−74.4%
|
200−210
+74.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−37%
|
35−40
+37%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−53.5%
|
300−350
+53.5%
|
Grand Theft Auto V | 62
−45.2%
|
90
+45.2%
|
Metro Exodus | 33
−90.9%
|
63
+90.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−26.3%
|
290−300
+26.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
−53.9%
|
110−120
+53.9%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−77.8%
|
48
+77.8%
|
Far Cry 5 | 67
−62.7%
|
109
+62.7%
|
Forza Horizon 4 | 77
−87%
|
140−150
+87%
|
Forza Horizon 5 | 47
−48.9%
|
70−75
+48.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−45.5%
|
80
+45.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
−73.3%
|
130−140
+73.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−60%
|
40−45
+60%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−66.7%
|
24−27
+66.7%
|
Grand Theft Auto V | 56
−58.9%
|
89
+58.9%
|
Metro Exodus | 21
−81%
|
38
+81%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−55.8%
|
67
+55.8%
|
Valorant | 180−190
−50%
|
280−290
+50%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
−81.4%
|
75−80
+81.4%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+66.7%
|
9
−66.7%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−81.8%
|
20
+81.8%
|
Dota 2 | 94
−48.9%
|
140−150
+48.9%
|
Far Cry 5 | 35
−54.3%
|
54
+54.3%
|
Forza Horizon 4 | 51
−94.1%
|
95−100
+94.1%
|
Forza Horizon 5 | 24
−45.8%
|
35−40
+45.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
−92.3%
|
75−80
+92.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
−168%
|
65−70
+168%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4060 เร็วกว่า 29% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4060 เร็วกว่า 10% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 67%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 207%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (93%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.38 | 51.11 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 18 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 115 วัตต์ |
RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 53.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 4.3%
GeForce RTX 4060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ