GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างมหาศาลถึง 133% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 161 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | 24 | 13 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.77 | 67.34 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.30 | 24.49 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 Ti อยู่ 54%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 48 | 80 |
TMUs | 96 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 224 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1313 MHz |
288.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 103
−112%
| 218
+112%
|
1440p | 60
−138%
| 143
+138%
|
4K | 39
−121%
| 86
+121%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.71
+1.4%
| 2.75
−1.4%
|
1440p | 4.65
−11%
| 4.19
+11%
|
4K | 7.15
−2.7%
| 6.97
+2.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 65−70
−178%
|
186
+178%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−131%
|
180−190
+131%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 90
−30%
|
110−120
+30%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−172%
|
182
+172%
|
Cyberpunk 2077 | 36
−122%
|
80−85
+122%
|
Forza Horizon 4 | 156
−178%
|
434
+178%
|
Forza Horizon 5 | 94
−121%
|
200−210
+121%
|
Metro Exodus | 98
−57.1%
|
150−160
+57.1%
|
Red Dead Redemption 2 | 119
−21.8%
|
140−150
+21.8%
|
Valorant | 161
−173%
|
400−450
+173%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 123
+5.1%
|
110−120
−5.1%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−137%
|
159
+137%
|
Cyberpunk 2077 | 28
−132%
|
65−70
+132%
|
Dota 2 | 140
−23.6%
|
173
+23.6%
|
Far Cry 5 | 118
−28.8%
|
152
+28.8%
|
Fortnite | 134
−130%
|
300−350
+130%
|
Forza Horizon 4 | 127
−237%
|
428
+237%
|
Forza Horizon 5 | 72
−189%
|
200−210
+189%
|
Grand Theft Auto V | 119
−45.4%
|
173
+45.4%
|
Metro Exodus | 68
−8.8%
|
74
+8.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 180−190
−15%
|
210−220
+15%
|
Red Dead Redemption 2 | 45
−222%
|
140−150
+222%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−51.3%
|
170−180
+51.3%
|
Valorant | 82
−435%
|
400−450
+435%
|
World of Tanks | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 78
−50%
|
110−120
+50%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−107%
|
139
+107%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−117%
|
50−55
+117%
|
Dota 2 | 168
−108%
|
350−400
+108%
|
Far Cry 5 | 90−95
−63.3%
|
140−150
+63.3%
|
Forza Horizon 4 | 110
−246%
|
381
+246%
|
Forza Horizon 5 | 66
−215%
|
200−210
+215%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 98
−119%
|
210−220
+119%
|
Valorant | 118
−272%
|
400−450
+272%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 62
−139%
|
148
+139%
|
Grand Theft Auto V | 62
−139%
|
148
+139%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 28
−232%
|
90−95
+232%
|
World of Tanks | 210−220
−140%
|
500−550
+140%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 63
−38.1%
|
85−90
+38.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−164%
|
87
+164%
|
Cyberpunk 2077 | 13
−131%
|
30−33
+131%
|
Far Cry 5 | 100−110
−50.9%
|
160−170
+50.9%
|
Forza Horizon 4 | 78
−240%
|
265
+240%
|
Forza Horizon 5 | 47
−234%
|
150−160
+234%
|
Metro Exodus | 65
−111%
|
130−140
+111%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−180%
|
154
+180%
|
Valorant | 82
−350%
|
350−400
+350%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−209%
|
100−110
+209%
|
Dota 2 | 56
−196%
|
166
+196%
|
Grand Theft Auto V | 56
−196%
|
166
+196%
|
Metro Exodus | 21
−252%
|
74
+252%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
−97.2%
|
200−210
+97.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 19
−237%
|
60−65
+237%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 56
−196%
|
166
+196%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
−194%
|
90−95
+194%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−209%
|
100−110
+209%
|
Cyberpunk 2077 | 6
−100%
|
12−14
+100%
|
Dota 2 | 94
−123%
|
210−220
+123%
|
Far Cry 5 | 45−50
−123%
|
100−110
+123%
|
Fortnite | 45−50
−113%
|
95−100
+113%
|
Forza Horizon 4 | 43
−207%
|
132
+207%
|
Forza Horizon 5 | 24
−317%
|
100−105
+317%
|
Valorant | 41
−424%
|
210−220
+424%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 112% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 138% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 121% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 5%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 435%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (96%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.58 | 78.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 220 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 83.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 132.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ