RTX A2000 เทียบกับ GeForce GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q กับ RTX A2000 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX A2000 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 120% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 336 | 142 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 90.16 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 37.13 | 34.99 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | GA106 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 3328 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 562 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 70 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 124.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 7.987 TFLOPS |
ROPs | 32 | 48 |
TMUs | 64 | 104 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 104 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 26 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 167 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | 1500 MHz |
112.1 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 4x mini-DisplayPort 1.4a |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
−59.3%
| 94
+59.3%
|
1440p | 29
−55.2%
| 45
+55.2%
|
4K | 18
−61.1%
| 29
+61.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 4.78 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 9.98 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 15.48 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−200%
|
84
+200%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−119%
|
70−75
+119%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 53
−84.9%
|
95−100
+84.9%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−121%
|
62
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−119%
|
70−75
+119%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−152%
|
166
+152%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−114%
|
90−95
+114%
|
Metro Exodus | 52
−104%
|
106
+104%
|
Red Dead Redemption 2 | 54
−31.5%
|
70−75
+31.5%
|
Valorant | 65−70
−117%
|
140−150
+117%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 59
−66.1%
|
95−100
+66.1%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−85.7%
|
52
+85.7%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−119%
|
70−75
+119%
|
Dota 2 | 69
−87%
|
129
+87%
|
Far Cry 5 | 52
−162%
|
136
+162%
|
Fortnite | 85−90
−79.8%
|
160−170
+79.8%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−97%
|
130
+97%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−114%
|
90−95
+114%
|
Grand Theft Auto V | 56
−130%
|
129
+130%
|
Metro Exodus | 36
−97.2%
|
71
+97.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 118
−62.7%
|
190−200
+62.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 23
−209%
|
70−75
+209%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−146%
|
120−130
+146%
|
Valorant | 35
−303%
|
140−150
+303%
|
World of Tanks | 167
−67.1%
|
270−280
+67.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 44
−123%
|
95−100
+123%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−60.7%
|
45
+60.7%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−119%
|
70−75
+119%
|
Dota 2 | 88
−116%
|
190−200
+116%
|
Far Cry 5 | 59
−57.6%
|
90−95
+57.6%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−65.2%
|
109
+65.2%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−114%
|
90−95
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−68.4%
|
190−200
+68.4%
|
Valorant | 65−70
−117%
|
140−150
+117%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 24−27
−142%
|
58
+142%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−132%
|
58
+132%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−100%
|
300−310
+100%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
−143%
|
30−35
+143%
|
World of Tanks | 110−120
−102%
|
220−230
+102%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 29
−131%
|
65−70
+131%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+23.1%
|
26
−23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−100%
|
24−27
+100%
|
Far Cry 5 | 40−45
−185%
|
110−120
+185%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−97.5%
|
79
+97.5%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−132%
|
55−60
+132%
|
Metro Exodus | 32
−93.8%
|
62
+93.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−114%
|
47
+114%
|
Valorant | 40−45
−161%
|
100−110
+161%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 12−14
−200%
|
35−40
+200%
|
Dota 2 | 27−30
−100%
|
56
+100%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−100%
|
56
+100%
|
Metro Exodus | 10
−100%
|
20
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 43
−163%
|
110−120
+163%
|
Red Dead Redemption 2 | 10−11
−130%
|
21−24
+130%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−100%
|
56
+100%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−186%
|
40−45
+186%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−200%
|
35−40
+200%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−100%
|
10−11
+100%
|
Dota 2 | 27−30
−114%
|
60−65
+114%
|
Far Cry 5 | 20−22
−155%
|
50−55
+155%
|
Fortnite | 19
−158%
|
45−50
+158%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−95.7%
|
45
+95.7%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−146%
|
30−35
+146%
|
Valorant | 18−20
−206%
|
55−60
+206%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ RTX A2000 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX A2000 เร็วกว่า 59% ในความละเอียด 1080p
- RTX A2000 เร็วกว่า 55% ในความละเอียด 1440p
- RTX A2000 เร็วกว่า 61% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 23%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX A2000 เร็วกว่า 303%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX A2000 เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (98%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.15 | 35.51 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 10 สิงหาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 70 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 133.3%
ในทางกลับกัน RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 119.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
RTX A2000 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ