Radeon 680M เทียบกับ GeForce GTX 1080 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1080 Max-Q และ Radeon 680M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1080 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างมหาศาลถึง 206% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 224 | 515 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 11.84 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP104 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 มิถุนายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1290 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1468 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 7,200 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 234.9 | 105.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.516 TFLOPS | 3.379 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 160 | 48 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5X | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1251 MHz | System Shared |
320.3 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 102
+176%
| 37
−176%
|
1440p | 65
+282%
| 17
−282%
|
4K | 50
+355%
| 11
−355%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 140−150
+240%
|
40−45
−240%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+42.1%
|
38
−42.1%
|
Hogwarts Legacy | 50−55
+55.9%
|
34
−55.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 133
+280%
|
35−40
−280%
|
Counter-Strike 2 | 140−150
+240%
|
40−45
−240%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+92.9%
|
28
−92.9%
|
Far Cry 5 | 91
+139%
|
38
−139%
|
Fortnite | 188
+284%
|
45−50
−284%
|
Forza Horizon 4 | 124
+244%
|
35−40
−244%
|
Forza Horizon 5 | 75−80
+51.9%
|
52
−51.9%
|
Hogwarts Legacy | 50−55
+141%
|
22
−141%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 111
+283%
|
27−30
−283%
|
Valorant | 160−170
+106%
|
80−85
−106%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 121
+246%
|
35−40
−246%
|
Counter-Strike 2 | 140−150
+240%
|
40−45
−240%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 260−270
+105%
|
120−130
−105%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+157%
|
21
−157%
|
Dota 2 | 106
+49.3%
|
71
−49.3%
|
Far Cry 5 | 89
+154%
|
35
−154%
|
Fortnite | 127
+159%
|
45−50
−159%
|
Forza Horizon 4 | 122
+239%
|
35−40
−239%
|
Forza Horizon 5 | 75−80
+71.7%
|
46
−71.7%
|
Grand Theft Auto V | 94
+161%
|
36
−161%
|
Hogwarts Legacy | 50−55
+165%
|
20
−165%
|
Metro Exodus | 64
+178%
|
23
−178%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 104
+259%
|
27−30
−259%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 118
+195%
|
40
−195%
|
Valorant | 203
+148%
|
80−85
−148%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 108
+209%
|
35−40
−209%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+200%
|
18
−200%
|
Dota 2 | 102
+67.2%
|
61
−67.2%
|
Far Cry 5 | 85
+158%
|
33
−158%
|
Forza Horizon 4 | 106
+194%
|
35−40
−194%
|
Hogwarts Legacy | 50−55
+279%
|
14
−279%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80
+176%
|
27−30
−176%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
+167%
|
24
−167%
|
Valorant | 128
−14.1%
|
146
+14.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 109
+122%
|
45−50
−122%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 55−60
+300%
|
14−16
−300%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
+182%
|
60−65
−182%
|
Grand Theft Auto V | 61
+259%
|
17
−259%
|
Metro Exodus | 37
+363%
|
8−9
−363%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+317%
|
40−45
−317%
|
Valorant | 194
+113%
|
90−95
−113%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
+356%
|
18−20
−356%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
+150%
|
10
−150%
|
Far Cry 5 | 66
+214%
|
21
−214%
|
Forza Horizon 4 | 84
+342%
|
18−20
−342%
|
Hogwarts Legacy | 27−30
+211%
|
9−10
−211%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
+147%
|
17
−147%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 64
+276%
|
16−18
−276%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+2400%
|
1−2
−2400%
|
Grand Theft Auto V | 64
+237%
|
18−20
−237%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
Metro Exodus | 23
+667%
|
3−4
−667%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
+246%
|
13
−246%
|
Valorant | 185
+340%
|
40−45
−340%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45
+400%
|
9−10
−400%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+2400%
|
1−2
−2400%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
+175%
|
4
−175%
|
Dota 2 | 80−85
+350%
|
18
−350%
|
Far Cry 5 | 34
+325%
|
8−9
−325%
|
Forza Horizon 4 | 55
+323%
|
12−14
−323%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
+238%
|
8−9
−238%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 34
+325%
|
8−9
−325%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1080 Max-Q และ Radeon 680M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1080 Max-Q เร็วกว่า 176% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1080 Max-Q เร็วกว่า 282% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1080 Max-Q เร็วกว่า 355% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1080 Max-Q เร็วกว่า 2400%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Radeon 680M เร็วกว่า 14%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1080 Max-Q เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (98%)
- Radeon 680M เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.84 | 7.46 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 มิถุนายน 2017 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GTX 1080 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 206.2%
ในทางกลับกัน Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 166.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 200%
GeForce GTX 1080 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ