GeForce RTX 2080 Super Max-Q เทียบกับ GTX 1070 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1070 Max-Q และ GeForce RTX 2080 Super Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1070 Max-Q อย่างน่าประทับใจ 97% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 316 | 142 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.82 | 30.64 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP104 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 มิถุนายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1215 MHz | 735 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1379 MHz | 1080 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 7,200 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 176.5 | 207.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.648 TFLOPS | 6.636 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 128 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2002 MHz | 1375 MHz |
256.3 จีบี/s | 352.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | 6.1 | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 94
−17%
| 110
+17%
|
1440p | 35−40
−114%
| 75
+114%
|
4K | 41
−14.6%
| 47
+14.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−120%
|
95−100
+120%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
70−75
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−108%
|
75−80
+108%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−120%
|
95−100
+120%
|
Battlefield 5 | 81
−71.6%
|
139
+71.6%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
70−75
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−108%
|
75−80
+108%
|
Far Cry 5 | 81
−42%
|
115
+42%
|
Fortnite | 90−95
−31.5%
|
121
+31.5%
|
Forza Horizon 4 | 101
−27.7%
|
120−130
+27.7%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−106%
|
95−100
+106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 94
−40.4%
|
130−140
+40.4%
|
Valorant | 130−140
−53.8%
|
200−210
+53.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−120%
|
95−100
+120%
|
Battlefield 5 | 81
−56.8%
|
127
+56.8%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
70−75
+132%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−28.8%
|
270−280
+28.8%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−108%
|
75−80
+108%
|
Dota 2 | 112
−10.7%
|
124
+10.7%
|
Far Cry 5 | 78
−38.5%
|
108
+38.5%
|
Fortnite | 122
+7%
|
114
−7%
|
Forza Horizon 4 | 97
−33%
|
120−130
+33%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−106%
|
95−100
+106%
|
Grand Theft Auto V | 105
−14.3%
|
120
+14.3%
|
Metro Exodus | 35−40
−114%
|
77
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 116
−13.8%
|
130−140
+13.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95
−50.5%
|
143
+50.5%
|
Valorant | 130−140
−53.8%
|
200−210
+53.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75
−58.7%
|
119
+58.7%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
70−75
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−108%
|
75−80
+108%
|
Dota 2 | 110
−7.3%
|
118
+7.3%
|
Far Cry 5 | 75
−36%
|
102
+36%
|
Forza Horizon 4 | 79
−63.3%
|
120−130
+63.3%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−106%
|
95−100
+106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 79
−67.1%
|
130−140
+67.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 51
−72.5%
|
88
+72.5%
|
Valorant | 130−140
−16.7%
|
154
+16.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 101
+1%
|
100
−1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−83.9%
|
220−230
+83.9%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−132%
|
65−70
+132%
|
Metro Exodus | 21−24
−143%
|
51
+143%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−6.7%
|
170−180
+6.7%
|
Valorant | 160−170
−42.5%
|
230−240
+42.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−100%
|
96
+100%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−47.4%
|
27−30
+47.4%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−125%
|
35−40
+125%
|
Far Cry 5 | 35−40
−103%
|
77
+103%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−117%
|
90−95
+117%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−90.3%
|
55−60
+90.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−122%
|
60−65
+122%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−111%
|
80
+111%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−92.9%
|
27−30
+92.9%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−100%
|
16−18
+100%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−132%
|
72
+132%
|
Metro Exodus | 12−14
−146%
|
32
+146%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 32
−68.8%
|
54
+68.8%
|
Valorant | 95−100
−111%
|
200−210
+111%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−124%
|
56
+124%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−100%
|
16−18
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−129%
|
16−18
+129%
|
Dota 2 | 55−60
−72.9%
|
102
+72.9%
|
Far Cry 5 | 27
−55.6%
|
42
+55.6%
|
Forza Horizon 4 | 43
−39.5%
|
60−65
+39.5%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−133%
|
35−40
+133%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 22
−86.4%
|
40−45
+86.4%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−165%
|
45
+165%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1070 Max-Q และ RTX 2080 Super Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 17% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 114% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 15% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1070 Max-Q เร็วกว่า 7%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 165%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1070 Max-Q เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 2080 Super Max-Q เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (97%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.85 | 35.17 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 มิถุนายน 2017 | 2 เมษายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 วัตต์ | 80 วัตต์ |
RTX 2080 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 97% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 43.8%
GeForce RTX 2080 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1070 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ