GeForce RTX 2080 Super Max-Q เทียบกับ GTX 1050 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 Ti Max-Q และ GeForce RTX 2080 Super Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Ti Max-Q อย่างมหาศาลถึง 157% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 385 | 145 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.66 | 30.46 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP107 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1152 MHz | 735 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1417 MHz | 1080 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 68.02 | 207.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.177 TFLOPS | 6.636 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 48 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1375 MHz |
112.1 จีบี/s | 352.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | 6.1 | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 57
−93%
| 110
+93%
|
1440p | 29
−159%
| 75
+159%
|
4K | 19
−147%
| 47
+147%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 30−35
−194%
|
95−100
+194%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−164%
|
190−200
+164%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−178%
|
75−80
+178%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 30−35
−194%
|
95−100
+194%
|
Battlefield 5 | 57
−144%
|
139
+144%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−164%
|
190−200
+164%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−178%
|
75−80
+178%
|
Far Cry 5 | 48
−140%
|
115
+140%
|
Fortnite | 75−80
−61.3%
|
121
+61.3%
|
Forza Horizon 4 | 67
−92.5%
|
120−130
+92.5%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−154%
|
100−110
+154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−181%
|
130−140
+181%
|
Valorant | 110−120
−82.9%
|
200−210
+82.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−194%
|
95−100
+194%
|
Battlefield 5 | 48
−165%
|
127
+165%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−164%
|
190−200
+164%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 180−190
−52.5%
|
270−280
+52.5%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−178%
|
75−80
+178%
|
Dota 2 | 98
−26.5%
|
124
+26.5%
|
Far Cry 5 | 44
−145%
|
108
+145%
|
Fortnite | 75−80
−52%
|
114
+52%
|
Forza Horizon 4 | 61
−111%
|
120−130
+111%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−154%
|
100−110
+154%
|
Grand Theft Auto V | 57
−111%
|
120
+111%
|
Metro Exodus | 31
−148%
|
77
+148%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−181%
|
130−140
+181%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 46
−211%
|
143
+211%
|
Valorant | 110−120
−82.9%
|
200−210
+82.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45
−164%
|
119
+164%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−178%
|
75−80
+178%
|
Dota 2 | 94
−25.5%
|
118
+25.5%
|
Far Cry 5 | 38
−168%
|
102
+168%
|
Forza Horizon 4 | 47
−174%
|
120−130
+174%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−181%
|
130−140
+181%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 25
−252%
|
88
+252%
|
Valorant | 110−120
−38.7%
|
154
+38.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−33.3%
|
100
+33.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−224%
|
80−85
+224%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−135%
|
220−230
+135%
|
Grand Theft Auto V | 20−22
−225%
|
65−70
+225%
|
Metro Exodus | 16−18
−219%
|
51
+219%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−56.3%
|
170−180
+56.3%
|
Valorant | 130−140
−73.7%
|
230−240
+73.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−174%
|
96
+174%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−227%
|
35−40
+227%
|
Far Cry 5 | 27−30
−175%
|
77
+175%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−184%
|
90−95
+184%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−186%
|
60−65
+186%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 27−30
−186%
|
80
+186%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−11
−160%
|
24−27
+160%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−363%
|
35−40
+363%
|
Grand Theft Auto V | 36
−100%
|
72
+100%
|
Metro Exodus | 5
−540%
|
32
+540%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16
−238%
|
54
+238%
|
Valorant | 70−75
−186%
|
200−210
+186%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 17
−229%
|
56
+229%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−363%
|
35−40
+363%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−220%
|
16−18
+220%
|
Dota 2 | 46
−122%
|
102
+122%
|
Far Cry 5 | 13
−223%
|
42
+223%
|
Forza Horizon 4 | 20
−200%
|
60−65
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−242%
|
40−45
+242%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−275%
|
45
+275%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 Ti Max-Q และ RTX 2080 Super Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 93% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 159% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 147% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 540%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 Super Max-Q เหนือกว่า GTX 1050 Ti Max-Q ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 11.92 | 30.59 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2018 | 2 เมษายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 80 วัตต์ |
GTX 1050 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.7%
ในทางกลับกัน RTX 2080 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 156.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
GeForce RTX 2080 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ