Radeon RX Vega 56 เทียบกับ RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 และ Radeon RX Vega 56 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 64 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 56 เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 141 | 165 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.72 | 20.30 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.53 | 11.10 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | GCN 5.0 (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Vega 10 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX Vega 56 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 64 อยู่ 8%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | 1156 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 1471 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 12,500 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 210 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | 329.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | 10.54 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 256 | 224 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 279 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | HBM2 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 2048 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | 800 MHz |
483.8 จีบี/s | 409.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.1.125 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 116
+0.9%
| 115
−0.9%
|
1440p | 76
−1.3%
| 77
+1.3%
|
4K | 50
+0%
| 50
+0%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.30
−24%
| 3.47
+24%
|
1440p | 6.57
−26.7%
| 5.18
+26.7%
|
4K | 9.98
−25.1%
| 7.98
+25.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 190−200
+7.1%
|
180−190
−7.1%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+8.3%
|
70−75
−8.3%
|
Hogwarts Legacy | 75−80
+8.5%
|
70−75
−8.5%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 161
+6.6%
|
151
−6.6%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+7.1%
|
180−190
−7.1%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+8.3%
|
70−75
−8.3%
|
Far Cry 5 | 110
+12.2%
|
98
−12.2%
|
Fortnite | 150−160
+1.3%
|
150
−1.3%
|
Forza Horizon 4 | 167
+18.4%
|
141
−18.4%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+7%
|
100−105
−7%
|
Hogwarts Legacy | 75−80
+8.5%
|
70−75
−8.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−11.7%
|
153
+11.7%
|
Valorant | 315
+59.9%
|
190−200
−59.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 146
+4.3%
|
140
−4.3%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+7.1%
|
180−190
−7.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.7%
|
270−280
−0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+8.3%
|
70−75
−8.3%
|
Dota 2 | 150
+10.3%
|
130−140
−10.3%
|
Far Cry 5 | 104
+11.8%
|
93
−11.8%
|
Fortnite | 150−160
+9.4%
|
139
−9.4%
|
Forza Horizon 4 | 158
+17.9%
|
134
−17.9%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+7%
|
100−105
−7%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+24.5%
|
94
−24.5%
|
Hogwarts Legacy | 75−80
+8.5%
|
70−75
−8.5%
|
Metro Exodus | 73
+4.3%
|
70
−4.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+0%
|
137
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+6.5%
|
124
−6.5%
|
Valorant | 293
+48.7%
|
190−200
−48.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
+6.1%
|
131
−6.1%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+8.3%
|
70−75
−8.3%
|
Dota 2 | 138
+1.5%
|
130−140
−1.5%
|
Far Cry 5 | 98
+10.1%
|
89
−10.1%
|
Forza Horizon 4 | 128
+17.4%
|
109
−17.4%
|
Hogwarts Legacy | 75−80
+8.5%
|
70−75
−8.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+14.2%
|
120
−14.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+4.1%
|
74
−4.1%
|
Valorant | 140
−40.7%
|
190−200
+40.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+40.7%
|
108
−40.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+10.4%
|
75−80
−10.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+7.3%
|
220−230
−7.3%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+9.7%
|
60−65
−9.7%
|
Metro Exodus | 46
+9.5%
|
42
−9.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 263
+12.4%
|
230−240
−12.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−10%
|
99
+10%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+11.8%
|
30−35
−11.8%
|
Far Cry 5 | 81
+9.5%
|
74
−9.5%
|
Forza Horizon 4 | 98
+11.4%
|
88
−11.4%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
+8.1%
|
35−40
−8.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+8.8%
|
55−60
−8.8%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+18.9%
|
74
−18.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+11.4%
|
35−40
−11.4%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+42%
|
50
−42%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
+4.8%
|
21−24
−4.8%
|
Metro Exodus | 46
+70.4%
|
27
−70.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+9.1%
|
44
−9.1%
|
Valorant | 205
+6.8%
|
190−200
−6.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
+7.3%
|
55
−7.3%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+11.4%
|
35−40
−11.4%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+13.3%
|
14−16
−13.3%
|
Dota 2 | 96
−1%
|
95−100
+1%
|
Far Cry 5 | 44
+12.8%
|
39
−12.8%
|
Forza Horizon 4 | 66
+11.9%
|
59
−11.9%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
+4.8%
|
21−24
−4.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−2.3%
|
44
+2.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
+13.5%
|
37
−13.5%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ RX Vega 56 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เร็วกว่า 1% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 1% ในความละเอียด 1440p
- เสมอกันในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 70%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 41%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (89%)
- RX Vega 56 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 31.72 | 29.36 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 210 วัตต์ |
RX Vega 64 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8%
ในทางกลับกัน RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 40.5%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon RX Vega 64 และ Radeon RX Vega 56 ได้อย่างชัดเจน