GeForce RTX 3060 Ti เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ GeForce RTX 3060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 56 อย่างน่าประทับใจ 55% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 156 | 53 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 25 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.68 | 68.08 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.22 | 18.27 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 56 อยู่ 188%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 4864 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 253.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 16.2 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 224 | 152 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 152 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 38 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1750 MHz |
409.6 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
−25.2%
| 144
+25.2%
|
1440p | 77
−3.9%
| 80
+3.9%
|
4K | 50
+0%
| 50
+0%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
−25.2%
| 2.77
+25.2%
|
1440p | 5.18
−3.9%
| 4.99
+3.9%
|
4K | 7.98
+0%
| 7.98
+0%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−154%
|
236
+154%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−133%
|
161
+133%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−83.3%
|
132
+83.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−93.5%
|
180
+93.5%
|
Battlefield 5 | 151
+4.1%
|
145
−4.1%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−79.7%
|
124
+79.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−56.9%
|
113
+56.9%
|
Far Cry 5 | 98
−46.9%
|
144
+46.9%
|
Fortnite | 150
−41.3%
|
210−220
+41.3%
|
Forza Horizon 4 | 141
−41.8%
|
200
+41.8%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−89.2%
|
176
+89.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
−13.7%
|
170−180
+13.7%
|
Valorant | 190−200
−36.9%
|
270−280
+36.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
−10.8%
|
103
+10.8%
|
Battlefield 5 | 140
+12.9%
|
124
−12.9%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−53.6%
|
106
+53.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−31.9%
|
95
+31.9%
|
Dota 2 | 130−140
−5.8%
|
145
+5.8%
|
Far Cry 5 | 93
−47.3%
|
137
+47.3%
|
Fortnite | 139
−52.5%
|
210−220
+52.5%
|
Forza Horizon 4 | 134
−46.3%
|
196
+46.3%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−69.9%
|
158
+69.9%
|
Grand Theft Auto V | 94
−50%
|
141
+50%
|
Metro Exodus | 70
−57.1%
|
110
+57.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
−27%
|
170−180
+27%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
−49.2%
|
185
+49.2%
|
Valorant | 190−200
−36.9%
|
270−280
+36.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
+14.9%
|
114
−14.9%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−40.6%
|
97
+40.6%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−16.7%
|
84
+16.7%
|
Dota 2 | 130−140
+1.5%
|
135
−1.5%
|
Far Cry 5 | 89
−44.9%
|
129
+44.9%
|
Forza Horizon 4 | 109
−58.7%
|
173
+58.7%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−50.5%
|
140−150
+50.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
−45%
|
170−180
+45%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
−24.3%
|
92
+24.3%
|
Valorant | 190−200
−38.4%
|
274
+38.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
−96.3%
|
210−220
+96.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−44.4%
|
35−40
+44.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−56.6%
|
300−350
+56.6%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
−56.5%
|
97
+56.5%
|
Metro Exodus | 42
−57.1%
|
66
+57.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−29.1%
|
300−350
+29.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
+1%
|
98
−1%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−54.3%
|
54
+54.3%
|
Far Cry 5 | 74
−41.9%
|
105
+41.9%
|
Forza Horizon 4 | 88
−70.5%
|
150
+70.5%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−49.1%
|
85−90
+49.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−77.2%
|
100−110
+77.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
−82.4%
|
130−140
+82.4%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−64%
|
40−45
+64%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−73.3%
|
24−27
+73.3%
|
Grand Theft Auto V | 50
−114%
|
107
+114%
|
Metro Exodus | 27
−59.3%
|
43
+59.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−75%
|
77
+75%
|
Valorant | 190−200
−50.5%
|
280−290
+50.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−18.2%
|
65
+18.2%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+0%
|
15
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−66.7%
|
25
+66.7%
|
Dota 2 | 95−100
−12.4%
|
109
+12.4%
|
Far Cry 5 | 39
−66.7%
|
65
+66.7%
|
Forza Horizon 4 | 59
−74.6%
|
103
+74.6%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−51.5%
|
50−55
+51.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
−79.5%
|
75−80
+79.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
−89.2%
|
70−75
+89.2%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ RTX 3060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 25% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 4% ในความละเอียด 1440p
- เสมอกันในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 15%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 154%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (89%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.03 | 52.81 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 1 ธันวาคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 55.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 5%
GeForce RTX 3060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ