RTX A2000 เทียบกับ Radeon Pro W6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro W6800 และ RTX A2000 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
Pro W6800 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างน่าสนใจ 46% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 53 | 144 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 25.31 | 89.76 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.21 | 34.87 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | GA106 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,249 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 255%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3328 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2075 MHz | 562 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2320 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 70 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.8 | 124.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 17.82 TFLOPS | 7.987 TFLOPS |
ROPs | 96 | 48 |
TMUs | 240 | 104 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 104 |
Ray Tracing Cores | 60 | 26 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 167 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1500 MHz |
512.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 6x mini-DisplayPort | 4x mini-DisplayPort 1.4a |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | - | 8.6 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 157
+67%
| 94
−67%
|
1440p | 120
+167%
| 45
−167%
|
4K | 93
+221%
| 29
−221%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 14.32
−200%
| 4.78
+200%
|
1440p | 18.74
−87.8%
| 9.98
+87.8%
|
4K | 24.18
−56.2%
| 15.48
+56.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
+38.1%
|
84
−38.1%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+53.3%
|
75−80
−53.3%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 110−120
+18.4%
|
95−100
−18.4%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+87.1%
|
62
−87.1%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+53.3%
|
75−80
−53.3%
|
Forza Horizon 4 | 282
+69.9%
|
166
−69.9%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
+42.9%
|
90−95
−42.9%
|
Metro Exodus | 61
−73.8%
|
106
+73.8%
|
Red Dead Redemption 2 | 95−100
+35.2%
|
70−75
−35.2%
|
Valorant | 210−220
+54.6%
|
140−150
−54.6%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110−120
+18.4%
|
95−100
−18.4%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+123%
|
52
−123%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+53.3%
|
75−80
−53.3%
|
Dota 2 | 114
−13.2%
|
129
+13.2%
|
Far Cry 5 | 45
−202%
|
136
+202%
|
Fortnite | 200−210
+30%
|
160−170
−30%
|
Forza Horizon 4 | 277
+113%
|
130
−113%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
+42.9%
|
90−95
−42.9%
|
Grand Theft Auto V | 121
−6.6%
|
129
+6.6%
|
Metro Exodus | 116
+63.4%
|
71
−63.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 210−220
+12%
|
190−200
−12%
|
Red Dead Redemption 2 | 95−100
+35.2%
|
70−75
−35.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+41.5%
|
120−130
−41.5%
|
Valorant | 210−220
+54.6%
|
140−150
−54.6%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+18.4%
|
95−100
−18.4%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+158%
|
45
−158%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+53.3%
|
75−80
−53.3%
|
Dota 2 | 86
+56.4%
|
55−60
−56.4%
|
Far Cry 5 | 110−120
+19.4%
|
90−95
−19.4%
|
Forza Horizon 4 | 268
+146%
|
109
−146%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
+42.9%
|
90−95
−42.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 210−220
+12%
|
190−200
−12%
|
Valorant | 210−220
+54.6%
|
140−150
−54.6%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 88
+51.7%
|
58
−51.7%
|
Grand Theft Auto V | 88
+51.7%
|
58
−51.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+45.8%
|
120−130
−45.8%
|
Red Dead Redemption 2 | 55−60
+64.7%
|
30−35
−64.7%
|
World of Tanks | 300−350
+46.5%
|
220−230
−46.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+25.4%
|
65−70
−25.4%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
+47.5%
|
40−45
−47.5%
|
Far Cry 5 | 150−160
+40.7%
|
110−120
−40.7%
|
Forza Horizon 4 | 212
+168%
|
79
−168%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+55.2%
|
55−60
−55.2%
|
Metro Exodus | 55
−12.7%
|
62
+12.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
+115%
|
47
−115%
|
Valorant | 180−190
+72.9%
|
100−110
−72.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+80%
|
14−16
−80%
|
Dota 2 | 125
+123%
|
56
−123%
|
Grand Theft Auto V | 125
+123%
|
56
−123%
|
Metro Exodus | 55
+175%
|
20
−175%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+56.6%
|
110−120
−56.6%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
+60.9%
|
21−24
−60.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 125
+123%
|
56
−123%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+60%
|
40−45
−60%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+350%
|
6
−350%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+50%
|
18−20
−50%
|
Dota 2 | 94
+56.7%
|
60−65
−56.7%
|
Far Cry 5 | 85−90
+70.6%
|
50−55
−70.6%
|
Fortnite | 80−85
+72.9%
|
45−50
−72.9%
|
Forza Horizon 4 | 126
+180%
|
45
−180%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
+65.6%
|
30−35
−65.6%
|
Valorant | 100−110
+85.5%
|
55−60
−85.5%
|
นี่คือวิธีที่ Pro W6800 และ RTX A2000 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เร็วกว่า 67% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 167% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 221% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 350%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX A2000 เร็วกว่า 202%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 48การทดสอบ (89%)
- RTX A2000 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (9%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.95 | 35.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มิถุนายน 2021 | 10 สิงหาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 70 วัตต์ |
Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 45.6% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%
ในทางกลับกัน RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 257.1%
Radeon Pro W6800 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ