GeForce RTX 4080 เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างมหาศาลถึง 155% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 145 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 91.04 | 29.10 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.63 | 19.28 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD103 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 อยู่ 213%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 104 | 304 |
Tensor Cores | 104 | 304 |
Ray Tracing Cores | 26 | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 167 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1400 MHz |
288.0 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−144%
| 234
+144%
|
1440p | 43
−279%
| 163
+279%
|
4K | 27
−296%
| 107
+296%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.68
+9.6%
| 5.12
−9.6%
|
1440p | 10.44
−42%
| 7.36
+42%
|
4K | 16.63
−48.4%
| 11.21
+48.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
−151%
|
240−250
+151%
|
Counter-Strike 2 | 84
−143%
|
200−210
+143%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−208%
|
231
+208%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
−136%
|
227
+136%
|
Battlefield 5 | 110−120
−65.5%
|
190−200
+65.5%
|
Counter-Strike 2 | 62
−250%
|
217
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−208%
|
231
+208%
|
Far Cry 5 | 108
−106%
|
223
+106%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−169%
|
300−350
+169%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−159%
|
249
+159%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
Valorant | 200−210
−173%
|
550−600
+173%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
−114%
|
205
+114%
|
Battlefield 5 | 110−120
−65.5%
|
190−200
+65.5%
|
Counter-Strike 2 | 52
−288%
|
202
+288%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−180%
|
210
+180%
|
Far Cry 5 | 98
−122%
|
218
+122%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−169%
|
300−350
+169%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−149%
|
239
+149%
|
Grand Theft Auto V | 129
−38%
|
178
+38%
|
Metro Exodus | 60
−255%
|
213
+255%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 117
−366%
|
545
+366%
|
Valorant | 200−210
−173%
|
550−600
+173%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−65.5%
|
190−200
+65.5%
|
Counter-Strike 2 | 45
−278%
|
170
+278%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−153%
|
190
+153%
|
Far Cry 5 | 91
−124%
|
204
+124%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−169%
|
300−350
+169%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−150%
|
240−250
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−305%
|
259
+305%
|
Valorant | 200−210
−185%
|
575
+185%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−357%
|
120−130
+357%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−128%
|
500−550
+128%
|
Grand Theft Auto V | 58
−179%
|
162
+179%
|
Metro Exodus | 34
−353%
|
154
+353%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−105%
|
450−500
+105%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−125%
|
190−200
+125%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−258%
|
129
+258%
|
Far Cry 5 | 61
−230%
|
201
+230%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−240%
|
300−350
+240%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−141%
|
140−150
+141%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−306%
|
191
+306%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−79.8%
|
150−160
+79.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−246%
|
90−95
+246%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−413%
|
82
+413%
|
Grand Theft Auto V | 56
−230%
|
185
+230%
|
Metro Exodus | 20
−420%
|
104
+420%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−368%
|
187
+368%
|
Valorant | 190−200
−66.8%
|
300−350
+66.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−167%
|
130−140
+167%
|
Counter-Strike 2 | 6
−383%
|
29
+383%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−294%
|
63
+294%
|
Far Cry 5 | 30
−367%
|
140
+367%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−405%
|
300−350
+405%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−150%
|
85−90
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−97.5%
|
75−80
+97.5%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 249
+0%
|
249
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 233
+0%
|
233
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 227
+0%
|
227
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 144% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 279% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 296% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 420%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.26 | 89.75 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 357.1%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 154.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป