GeForce RTX 4070 Ti เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 4070 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างมหาศาลถึง 134% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 148 | 10 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 92.97 | 49.03 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.55 | 19.83 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4070 Ti อยู่ 90%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 7680 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 2310 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 626.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 40.09 TFLOPS |
ROPs | 48 | 80 |
TMUs | 104 | 240 |
Tensor Cores | 104 | 240 |
Ray Tracing Cores | 26 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 167 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1313 MHz |
288.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 92
−142%
| 223
+142%
|
1440p | 44
−216%
| 139
+216%
|
4K | 28
−211%
| 87
+211%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.88
−36.2%
| 3.58
+36.2%
|
1440p | 10.20
−77.5%
| 5.75
+77.5%
|
4K | 16.04
−74.6%
| 9.18
+74.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
−229%
|
316
+229%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−75.5%
|
300−350
+75.5%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−215%
|
236
+215%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
−164%
|
253
+164%
|
Battlefield 5 | 110−120
−62.2%
|
190−200
+62.2%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−75.5%
|
300−350
+75.5%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−191%
|
218
+191%
|
Far Cry 5 | 108
−95.4%
|
211
+95.4%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−147%
|
300−350
+147%
|
Forza Horizon 5 | 121
−102%
|
244
+102%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
Valorant | 200−210
−133%
|
450−500
+133%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
−87.5%
|
180
+87.5%
|
Battlefield 5 | 110−120
−62.2%
|
190−200
+62.2%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−75.5%
|
300−350
+75.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−147%
|
185
+147%
|
Far Cry 5 | 98
−107%
|
203
+107%
|
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−147%
|
300−350
+147%
|
Forza Horizon 5 | 106
−115%
|
228
+115%
|
Grand Theft Auto V | 129
−38%
|
178
+38%
|
Metro Exodus | 60
−228%
|
197
+228%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 117
−287%
|
453
+287%
|
Valorant | 200−210
−133%
|
450−500
+133%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−62.2%
|
190−200
+62.2%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−123%
|
167
+123%
|
Far Cry 5 | 91
−108%
|
189
+108%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−147%
|
300−350
+147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−245%
|
221
+245%
|
Valorant | 200−210
−133%
|
450−500
+133%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−104%
|
300−350
+104%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
−208%
|
240−250
+208%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−128%
|
500−550
+128%
|
Grand Theft Auto V | 58
−169%
|
156
+169%
|
Metro Exodus | 34
−285%
|
131
+285%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−105%
|
450−500
+105%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−125%
|
190−200
+125%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−192%
|
105
+192%
|
Far Cry 5 | 61
−198%
|
182
+198%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−212%
|
280−290
+212%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−321%
|
190−200
+321%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−79.8%
|
150−160
+79.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−196%
|
75−80
+196%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−203%
|
110−120
+203%
|
Grand Theft Auto V | 56
−207%
|
172
+207%
|
Metro Exodus | 20
−320%
|
84
+320%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−273%
|
149
+273%
|
Valorant | 190−200
−66.8%
|
300−350
+66.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−167%
|
130−140
+167%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−203%
|
110−120
+203%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−200%
|
48
+200%
|
Far Cry 5 | 30
−270%
|
111
+270%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−313%
|
240−250
+313%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−97.5%
|
75−80
+97.5%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 259
+0%
|
259
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 243
+0%
|
243
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 226
+0%
|
226
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 4070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 142% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 216% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 211% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 321%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.38 | 71.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 3 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 307.1%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 133.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป