GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 4080 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างมหาศาลถึง 151% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 142 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 55 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 90.16 | 38.38 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.99 | 19.20 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD103 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 SUPER อยู่ 135%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 104 | 320 |
Tensor Cores | 104 | 320 |
Ray Tracing Cores | 26 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 167 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1438 MHz |
288.0 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 94
−178%
| 261
+178%
|
1440p | 45
−296%
| 178
+296%
|
4K | 29
−307%
| 118
+307%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.78
−24.8%
| 3.83
+24.8%
|
1440p | 9.98
−77.8%
| 5.61
+77.8%
|
4K | 15.48
−82.9%
| 8.47
+82.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 84
−193%
|
246
+193%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 95−100
−19.4%
|
110−120
+19.4%
|
Counter-Strike 2 | 62
−287%
|
240
+287%
|
Forza Horizon 4 | 166
−270%
|
614
+270%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−173%
|
250−260
+173%
|
Metro Exodus | 106
−86.8%
|
198
+86.8%
|
Red Dead Redemption 2 | 70−75
−120%
|
150−160
+120%
|
Valorant | 140−150
−316%
|
550−600
+316%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 95−100
−19.4%
|
110−120
+19.4%
|
Counter-Strike 2 | 52
−312%
|
214
+312%
|
Dota 2 | 129
−38.8%
|
179
+38.8%
|
Far Cry 5 | 136
−18.4%
|
161
+18.4%
|
Fortnite | 160−170
−92.5%
|
300−350
+92.5%
|
Forza Horizon 4 | 130
−337%
|
568
+337%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−173%
|
250−260
+173%
|
Grand Theft Auto V | 129
−38.8%
|
179
+38.8%
|
Metro Exodus | 71
−165%
|
188
+165%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
−12%
|
210−220
+12%
|
Red Dead Redemption 2 | 70−75
−120%
|
150−160
+120%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 120−130
−41.5%
|
170−180
+41.5%
|
Valorant | 140−150
−316%
|
550−600
+316%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 95−100
−19.4%
|
110−120
+19.4%
|
Counter-Strike 2 | 45
−322%
|
190
+322%
|
Far Cry 5 | 90−95
−88.2%
|
170−180
+88.2%
|
Forza Horizon 4 | 109
−383%
|
527
+383%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−173%
|
250−260
+173%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
−12%
|
210−220
+12%
|
Valorant | 140−150
−316%
|
550−600
+316%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 58
−191%
|
169
+191%
|
Grand Theft Auto V | 58
−191%
|
169
+191%
|
Red Dead Redemption 2 | 30−35
−174%
|
90−95
+174%
|
World of Tanks | 220−230
−128%
|
500−550
+128%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−29.9%
|
85−90
+29.9%
|
Counter-Strike 2 | 26
−373%
|
123
+373%
|
Far Cry 5 | 110−120
−40.4%
|
160−170
+40.4%
|
Forza Horizon 4 | 79
−403%
|
397
+403%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−233%
|
190−200
+233%
|
Metro Exodus | 62
−176%
|
171
+176%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−370%
|
221
+370%
|
Valorant | 100−110
−337%
|
450−500
+337%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−272%
|
134
+272%
|
Dota 2 | 56
−234%
|
187
+234%
|
Grand Theft Auto V | 56
−234%
|
187
+234%
|
Metro Exodus | 20
−430%
|
106
+430%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−85%
|
200−210
+85%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−178%
|
60−65
+178%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 56
−234%
|
187
+234%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−128%
|
90−95
+128%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−244%
|
120−130
+244%
|
Far Cry 5 | 50−55
−106%
|
100−110
+106%
|
Fortnite | 45−50
−95.9%
|
95−100
+95.9%
|
Forza Horizon 4 | 45
−347%
|
201
+347%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−294%
|
120−130
+294%
|
Valorant | 55−60
−404%
|
270−280
+404%
|
1440p
High Preset
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 178% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 296% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 307% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 430%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (96%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (4%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.51 | 89.11 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 357.1%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 150.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4080 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ