GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ RTX A2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A2000 กับ GeForce RTX 4070 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างมหาศาลถึง 121% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 155 | 12 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 20 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 92.60 | 67.46 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 34.43 | 24.22 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $449 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4070 SUPER อยู่ 37%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3328 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 562 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 124.8 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.987 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 48 | 80 |
TMUs | 104 | 224 |
Tensor Cores | 104 | 224 |
Ray Tracing Cores | 26 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 167 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1313 MHz |
288.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 91
−138%
| 217
+138%
|
1440p | 43
−212%
| 134
+212%
|
4K | 28
−193%
| 82
+193%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.93
−78.7%
| 2.76
+78.7%
|
1440p | 10.44
−134%
| 4.47
+134%
|
4K | 16.04
−120%
| 7.30
+120%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
−73.4%
|
300−350
+73.4%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−165%
|
196
+165%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−114%
|
150−160
+114%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 110−120
−55.5%
|
180−190
+55.5%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−73.4%
|
300−350
+73.4%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−149%
|
184
+149%
|
Far Cry 5 | 108
−88%
|
203
+88%
|
Fortnite | 140−150
−105%
|
300−350
+105%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−129%
|
290−300
+129%
|
Forza Horizon 5 | 121
−70.2%
|
200−210
+70.2%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−114%
|
150−160
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
Valorant | 200−210
−112%
|
400−450
+112%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110−120
−55.5%
|
180−190
+55.5%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−73.4%
|
300−350
+73.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−115%
|
159
+115%
|
Far Cry 5 | 98
−104%
|
200
+104%
|
Fortnite | 140−150
−105%
|
300−350
+105%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−129%
|
290−300
+129%
|
Forza Horizon 5 | 106
−94.3%
|
200−210
+94.3%
|
Grand Theft Auto V | 129
−34.1%
|
173
+34.1%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−114%
|
150−160
+114%
|
Metro Exodus | 60
−208%
|
185
+208%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 117
−252%
|
412
+252%
|
Valorant | 200−210
−112%
|
400−450
+112%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−55.5%
|
180−190
+55.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−94.6%
|
144
+94.6%
|
Far Cry 5 | 91
−109%
|
190
+109%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−129%
|
290−300
+129%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
−114%
|
150−160
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−35.1%
|
170−180
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−214%
|
201
+214%
|
Valorant | 200−210
−112%
|
400−450
+112%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−105%
|
300−350
+105%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
−185%
|
220−230
+185%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−127%
|
500−550
+127%
|
Grand Theft Auto V | 58
−155%
|
148
+155%
|
Metro Exodus | 34
−247%
|
118
+247%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−105%
|
450−500
+105%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−120%
|
190−200
+120%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−156%
|
92
+156%
|
Far Cry 5 | 61
−200%
|
183
+200%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−187%
|
250−260
+187%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−158%
|
95−100
+158%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−228%
|
154
+228%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−79.8%
|
150−160
+79.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−178%
|
100−110
+178%
|
Grand Theft Auto V | 56
−196%
|
166
+196%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−167%
|
55−60
+167%
|
Metro Exodus | 20
−270%
|
74
+270%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−233%
|
133
+233%
|
Valorant | 190−200
−66.8%
|
300−350
+66.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−167%
|
130−140
+167%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−178%
|
100−110
+178%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−175%
|
44
+175%
|
Far Cry 5 | 30
−243%
|
103
+243%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−262%
|
210−220
+262%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−167%
|
55−60
+167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−97.5%
|
75−80
+97.5%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A2000 และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 138% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 212% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 193% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 270%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.37 | 67.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 สิงหาคม 2021 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 70 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 214.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 121% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4070 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป