Arc A770M เทียบกับ GeForce RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 กับ Arc A770M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A770M อย่างมหาศาลถึง 190% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 188 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.10 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.34 | 17.77 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 1650 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2050 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 120 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 524.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 16.79 TFLOPS |
ROPs | 112 | 128 |
TMUs | 304 | 256 |
Tensor Cores | 304 | 512 |
Ray Tracing Cores | 76 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 3-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 2000 MHz |
716.8 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+157%
| 91
−157%
|
1440p | 163
+220%
| 51
−220%
|
4K | 107
+182%
| 38
−182%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 7.36 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 11.21 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
+190%
|
80−85
−190%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+240%
|
60−65
−240%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+104%
|
113
−104%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+173%
|
80−85
−173%
|
Battlefield 5 | 190−200
+80.7%
|
100−110
−80.7%
|
Counter-Strike 2 | 217
+262%
|
60−65
−262%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+143%
|
95
−143%
|
Far Cry 5 | 223
+110%
|
106
−110%
|
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+204%
|
110−120
−204%
|
Forza Horizon 5 | 249
+196%
|
80−85
−196%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
Valorant | 550−600
+196%
|
180−190
−196%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
+147%
|
80−85
−147%
|
Battlefield 5 | 190−200
+80.7%
|
100−110
−80.7%
|
Counter-Strike 2 | 202
+237%
|
60−65
−237%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+2.2%
|
270−280
−2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+173%
|
77
−173%
|
Dota 2 | 249
+88.6%
|
130−140
−88.6%
|
Far Cry 5 | 218
+120%
|
99
−120%
|
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+204%
|
110−120
−204%
|
Forza Horizon 5 | 239
+185%
|
80−85
−185%
|
Grand Theft Auto V | 178
+107%
|
86
−107%
|
Metro Exodus | 213
+129%
|
93
−129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+215%
|
173
−215%
|
Valorant | 550−600
+196%
|
180−190
−196%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+80.7%
|
100−110
−80.7%
|
Counter-Strike 2 | 170
+183%
|
60−65
−183%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+184%
|
67
−184%
|
Dota 2 | 233
+76.5%
|
130−140
−76.5%
|
Far Cry 5 | 204
+115%
|
95
−115%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+204%
|
110−120
−204%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+53.9%
|
110−120
−53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+408%
|
51
−408%
|
Valorant | 575
+209%
|
180−190
−209%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+124%
|
130−140
−124%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+213%
|
40−45
−213%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+158%
|
200−210
−158%
|
Grand Theft Auto V | 162
+195%
|
55−60
−195%
|
Metro Exodus | 154
+170%
|
57
−170%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+117%
|
220−230
−117%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+151%
|
75−80
−151%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+193%
|
44
−193%
|
Far Cry 5 | 201
+148%
|
81
−148%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+297%
|
75−80
−297%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+282%
|
50−55
−282%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+110%
|
70−75
−110%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+291%
|
21−24
−291%
|
Counter-Strike 2 | 82
+486%
|
14−16
−486%
|
Grand Theft Auto V | 185
+311%
|
45
−311%
|
Metro Exodus | 104
+181%
|
37
−181%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+202%
|
62
−202%
|
Valorant | 300−350
+91.9%
|
170−180
−91.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+202%
|
45−50
−202%
|
Counter-Strike 2 | 29
+107%
|
14−16
−107%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+186%
|
22
−186%
|
Dota 2 | 227
+152%
|
90−95
−152%
|
Far Cry 5 | 140
+211%
|
45
−211%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+483%
|
50−55
−483%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+191%
|
30−35
−191%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+132%
|
30−35
−132%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 80−85
+0%
|
80−85
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
+0%
|
50−55
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ Arc A770M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 220% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 182% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 486%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (93%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (7%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 89.42 | 30.82 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 120 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 190.1% และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน Arc A770M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 166.7%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A770M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Arc A770M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก