Radeon RX 7600S เทียบกับ GeForce RTX 4080 Mobile
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 Mobile และ Radeon RX 7600S โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า 7600S อย่างน่าประทับใจ 60% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 46 | 145 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 41.34 | 37.82 |
| สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
| ชื่อรหัส GPU | AD104 | Navi 33 |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7424 | 1792 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1290 MHz | 1500 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2200 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 13,300 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 6 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 110 Watt | 75 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 386.3 | 246.4 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 24.72 TFLOPS | 15.77 TFLOPS |
| ROPs | 80 | 64 |
| TMUs | 232 | 112 |
| Tensor Cores | 232 | ไม่มีข้อมูล |
| Ray Tracing Cores | 58 | 28 |
| L0 Cache | ไม่มีข้อมูล | 448 เคบี |
| L1 Cache | 7.3 เอ็มบี | 512 เคบี |
| L2 Cache | 48 เอ็มบี | 2 เอ็มบี |
| L3 Cache | ไม่มีข้อมูล | 32 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | large | large |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 2000 MHz |
| 432.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 2.2 |
| Vulkan | 1.3 | 1.3 |
| CUDA | 8.9 | - |
| DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 151
+48%
| 102
−48%
|
| 1440p | 101
+94.2%
| 52
−94.2%
|
| 4K | 67
+148%
| 27
−148%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 290−300
+42.5%
|
200−210
−42.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 149
+71.3%
|
85−90
−71.3%
|
| Hogwarts Legacy | 190
+61%
|
118
−61%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 160−170
+29.5%
|
120−130
−29.5%
|
| Counter-Strike 2 | 215
+12.6%
|
191
−12.6%
|
| Cyberpunk 2077 | 143
+38.8%
|
103
−38.8%
|
| Far Cry 5 | 171
+54.1%
|
111
−54.1%
|
| Fortnite | 280−290
+73.6%
|
160−170
−73.6%
|
| Forza Horizon 4 | 230−240
+62.5%
|
140−150
−62.5%
|
| Forza Horizon 5 | 180−190
+26.4%
|
144
−26.4%
|
| Hogwarts Legacy | 168
+88.8%
|
89
−88.8%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+18.2%
|
140−150
−18.2%
|
| Valorant | 300−350
+50.5%
|
220−230
−50.5%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 160−170
+29.5%
|
120−130
−29.5%
|
| Counter-Strike 2 | 196
+54.3%
|
127
−54.3%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
| Cyberpunk 2077 | 124
+47.6%
|
84
−47.6%
|
| Dota 2 | 178
+57.5%
|
113
−57.5%
|
| Far Cry 5 | 161
+50.5%
|
107
−50.5%
|
| Fortnite | 280−290
+73.6%
|
160−170
−73.6%
|
| Forza Horizon 4 | 230−240
+62.5%
|
140−150
−62.5%
|
| Forza Horizon 5 | 180−190
+34.8%
|
135
−34.8%
|
| Grand Theft Auto V | 157
+24.6%
|
126
−24.6%
|
| Hogwarts Legacy | 137
+90.3%
|
72
−90.3%
|
| Metro Exodus | 146
+274%
|
39
−274%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+18.2%
|
140−150
−18.2%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 334
+110%
|
159
−110%
|
| Valorant | 300−350
+50.5%
|
220−230
−50.5%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 160−170
+29.5%
|
120−130
−29.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 121
+72.9%
|
70
−72.9%
|
| Dota 2 | 165
+50%
|
110
−50%
|
| Far Cry 5 | 151
+48%
|
102
−48%
|
| Forza Horizon 4 | 230−240
+62.5%
|
140−150
−62.5%
|
| Hogwarts Legacy | 116
+111%
|
55
−111%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+18.2%
|
140−150
−18.2%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 172
+81.1%
|
95
−81.1%
|
| Valorant | 300−350
+84.9%
|
179
−84.9%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 280−290
+73.6%
|
160−170
−73.6%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 149
+133%
|
64
−133%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
+74.3%
|
260−270
−74.3%
|
| Grand Theft Auto V | 122
+58.4%
|
75−80
−58.4%
|
| Metro Exodus | 102
+88.9%
|
50−55
−88.9%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
| Valorant | 350−400
+55.7%
|
250−260
−55.7%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 140−150
+54.2%
|
95−100
−54.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 82
+90.7%
|
43
−90.7%
|
| Far Cry 5 | 140
+55.6%
|
90−95
−55.6%
|
| Forza Horizon 4 | 190−200
+85.8%
|
100−110
−85.8%
|
| Hogwarts Legacy | 81
+84.1%
|
40−45
−84.1%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 140
+100%
|
70−75
−100%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 150−160
+54.1%
|
95−100
−54.1%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 71
+318%
|
17
−318%
|
| Grand Theft Auto V | 144
+80%
|
80−85
−80%
|
| Hogwarts Legacy | 40−45
+79.2%
|
24−27
−79.2%
|
| Metro Exodus | 67
+97.1%
|
30−35
−97.1%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 117
+98.3%
|
55−60
−98.3%
|
| Valorant | 336
+47.4%
|
220−230
−47.4%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 100−110
+79.7%
|
55−60
−79.7%
|
| Counter-Strike 2 | 75−80
+83.7%
|
40−45
−83.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 39
+117%
|
18
−117%
|
| Dota 2 | 157
+45.4%
|
100−110
−45.4%
|
| Far Cry 5 | 91
+85.7%
|
45−50
−85.7%
|
| Forza Horizon 4 | 140−150
+110%
|
70−75
−110%
|
| Hogwarts Legacy | 43
+79.2%
|
24−27
−79.2%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+95.9%
|
45−50
−95.9%
|
4K
Epic
| Fortnite | 75−80
+64.6%
|
45−50
−64.6%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 Mobile และ RX 7600S แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 Mobile เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 Mobile เร็วกว่า 94% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 Mobile เร็วกว่า 148% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 Mobile เร็วกว่า 318%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 Mobile เหนือกว่าใน 64การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 58.66 | 36.59 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 6 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 110 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RTX 4080 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 60.3% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
ในทางกลับกัน RX 7600S มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 46.7%
GeForce RTX 4080 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600S ในการทดสอบประสิทธิภาพ
