Radeon Pro 5500M เทียบกับ GeForce RTX 2080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Ti กับ Radeon Pro 5500M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 5500M อย่างมหาศาลถึง 219% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 51 | 321 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.48 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.41 | 14.22 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | Navi 14 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4352 | 1536 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1545 MHz | 1450 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 6,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 85 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.2 | 139.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.45 TFLOPS | 4.454 TFLOPS |
ROPs | 88 | 32 |
TMUs | 272 | 96 |
Tensor Cores | 544 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 68 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 352 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1500 MHz |
616.0 จีบี/s | 192.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | No outputs |
HDMI | + | - |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 165
+184%
| 58
−184%
|
1440p | 122
+103%
| 60
−103%
|
4K | 93
+174%
| 34
−174%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.05 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 8.19 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 10.74 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 160−170
+277%
|
40−45
−277%
|
Counter-Strike 2 | 270−280
+194%
|
90−95
−194%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+263%
|
35−40
−263%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 160−170
+277%
|
40−45
−277%
|
Battlefield 5 | 170
+124%
|
76
−124%
|
Counter-Strike 2 | 270−280
+194%
|
90−95
−194%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+263%
|
35−40
−263%
|
Far Cry 5 | 136
+143%
|
55−60
−143%
|
Fortnite | 302
+232%
|
90−95
−232%
|
Forza Horizon 4 | 182
+168%
|
65−70
−168%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
+403%
|
31
−403%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 201
+224%
|
60−65
−224%
|
Valorant | 285
+119%
|
130−140
−119%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 160−170
+277%
|
40−45
−277%
|
Battlefield 5 | 164
+165%
|
62
−165%
|
Counter-Strike 2 | 270−280
+194%
|
90−95
−194%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+33.7%
|
208
−33.7%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+263%
|
35−40
−263%
|
Dota 2 | 146
+31.5%
|
111
−31.5%
|
Far Cry 5 | 130
+132%
|
55−60
−132%
|
Fortnite | 232
+155%
|
90−95
−155%
|
Forza Horizon 4 | 181
+166%
|
65−70
−166%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
+194%
|
50−55
−194%
|
Grand Theft Auto V | 134
+94.2%
|
69
−94.2%
|
Metro Exodus | 107
+189%
|
37
−189%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 193
+211%
|
60−65
−211%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 247
+263%
|
68
−263%
|
Valorant | 267
+105%
|
130−140
−105%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 159
+169%
|
59
−169%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+263%
|
35−40
−263%
|
Dota 2 | 141
+31.8%
|
107
−31.8%
|
Far Cry 5 | 122
+122%
|
55
−122%
|
Forza Horizon 4 | 168
+147%
|
65−70
−147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 191
+208%
|
60−65
−208%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 135
+246%
|
39
−246%
|
Valorant | 259
+825%
|
28
−825%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 216
+137%
|
90−95
−137%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 140−150
+348%
|
30−35
−348%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+214%
|
118
−214%
|
Grand Theft Auto V | 100−110
+211%
|
35
−211%
|
Metro Exodus | 76
+245%
|
22
−245%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+63.6%
|
107
−63.6%
|
Valorant | 266
+62.2%
|
160−170
−62.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 134
+185%
|
47
−185%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+353%
|
14−16
−353%
|
Far Cry 5 | 117
+193%
|
40
−193%
|
Forza Horizon 4 | 147
+259%
|
40−45
−259%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+307%
|
27−30
−307%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 151
+308%
|
35−40
−308%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+238%
|
12−14
−238%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+415%
|
12−14
−415%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270
+280%
|
71
−280%
|
Grand Theft Auto V | 142
+468%
|
25
−468%
|
Metro Exodus | 51
+292%
|
12−14
−292%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 98
+326%
|
21−24
−326%
|
Valorant | 259
+182%
|
90−95
−182%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 86
+514%
|
14
−514%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+415%
|
12−14
−415%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+433%
|
6−7
−433%
|
Dota 2 | 139
+157%
|
54
−157%
|
Far Cry 5 | 78
+290%
|
20
−290%
|
Forza Horizon 4 | 107
+269%
|
27−30
−269%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 88
+450%
|
16−18
−450%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 79
+394%
|
16−18
−394%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Ti และ Pro 5500M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 184% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 103% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 174% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Ti เร็วกว่า 825%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 Ti เหนือกว่า Pro 5500M ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 48.43 | 15.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2018 | 13 พฤศจิกายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 85 วัตต์ |
RTX 2080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 218.8% และ
ในทางกลับกัน Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 194.1%
GeForce RTX 2080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 2080 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา