GeForce GTX 1050 เทียบกับ GTX 980
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 980 และ GeForce GTX 1050 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 980 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 อย่างมหาศาลถึง 121% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 202 | 396 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 13 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 11.00 | 11.33 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.05 | 12.00 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | GM204 | GP107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 19 กันยายน 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 25 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $549 | $109 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1050 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 980 อยู่ 3%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 640 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1064 MHz | 1290 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1216 MHz | 1392 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,200 million | 3,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 75 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 97 °C |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 155.6 | 58.20 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.981 TFLOPS | 1.862 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 128 | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | PCIe 3.0 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 145 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | 11.1 ซม |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 500 วัตต์ | 300 วัตต์ |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | None |
ตัวเลือก SLI | + | - |
SLI | ไม่มีข้อมูล | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 7.0 จีบี/s | 1752 MHz |
224 จีบี/s | 112 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Dual Link DVI-I, HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.2 | DP 1.4, HDMI 2.0b, Dual Link-DVI |
รองรับหลายจอภาพ | 4 displays | + |
รองรับการแสดงผล VGA แบบแอนะล็อก | + | ไม่มีข้อมูล |
รองรับ DisplayPort หลายโหมด (DP++) | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
HDCP | + | 2.2 |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
รองรับ G-SYNC | + | + |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GameStream | + | + |
GeForce ShadowPlay | + | - |
GPU Boost | 2.0 | 3.0 |
GameWorks | + | - |
ตัวถอดรหัสวิดีโอ H.264, VC1, MPEG2 1080 | + | - |
Optimus | + | - |
BatteryBoost | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Ansel | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.5 | 4.5 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.2.131 |
CUDA | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 94
+114%
| 44
−114%
|
1440p | 51
+122%
| 23
−122%
|
4K | 39
+69.6%
| 23
−69.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.84
−136%
| 2.48
+136%
|
1440p | 10.76
−127%
| 4.74
+127%
|
4K | 14.08
−197%
| 4.74
+197%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 75−80
+145%
|
30−35
−145%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+400%
|
11
−400%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
+136%
|
24−27
−136%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 75−80
+145%
|
30−35
−145%
|
Battlefield 5 | 109
+94.6%
|
56
−94.6%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+817%
|
6
−817%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
+136%
|
24−27
−136%
|
Far Cry 5 | 80
+90.5%
|
40−45
−90.5%
|
Fortnite | 242
+241%
|
70−75
−241%
|
Forza Horizon 4 | 90
+73.1%
|
50−55
−73.1%
|
Forza Horizon 5 | 75−80
+136%
|
30−35
−136%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 93
+111%
|
40−45
−111%
|
Valorant | 170−180
+66.4%
|
100−110
−66.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 75−80
+145%
|
30−35
−145%
|
Battlefield 5 | 90
+109%
|
43
−109%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+150%
|
21−24
−150%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 260−270
+6.8%
|
250
−6.8%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
+136%
|
24−27
−136%
|
Dota 2 | 120−130
+3.2%
|
124
−3.2%
|
Far Cry 5 | 73
+73.8%
|
40−45
−73.8%
|
Fortnite | 116
+119%
|
53
−119%
|
Forza Horizon 4 | 83
+69.4%
|
49
−69.4%
|
Forza Horizon 5 | 75−80
+136%
|
30−35
−136%
|
Grand Theft Auto V | 72
+35.8%
|
53
−35.8%
|
Metro Exodus | 60−65
+259%
|
17
−259%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 79
+79.5%
|
40−45
−79.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 85
+124%
|
38
−124%
|
Valorant | 170−180
+66.4%
|
100−110
−66.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
+128%
|
36
−128%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+150%
|
21−24
−150%
|
Cyberpunk 2077 | 55−60
+136%
|
24−27
−136%
|
Dota 2 | 120−130
+14.3%
|
112
−14.3%
|
Far Cry 5 | 69
+64.3%
|
40−45
−64.3%
|
Forza Horizon 4 | 59
+73.5%
|
34
−73.5%
|
Forza Horizon 5 | 75−80
+136%
|
30−35
−136%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 56
+27.3%
|
40−45
−27.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 46
+130%
|
20
−130%
|
Valorant | 170−180
+536%
|
28
−536%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 91
+117%
|
42
−117%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+66.7%
|
14−16
−66.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 180−190
+104%
|
90−95
−104%
|
Grand Theft Auto V | 50−55
+614%
|
7
−614%
|
Metro Exodus | 35−40
+147%
|
14−16
−147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+94.4%
|
90−95
−94.4%
|
Valorant | 210−220
+64.4%
|
130−140
−64.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 62
+130%
|
27
−130%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+155%
|
10−12
−155%
|
Far Cry 5 | 48
+84.6%
|
24−27
−84.6%
|
Forza Horizon 4 | 48
+60%
|
30−33
−60%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+118%
|
21−24
−118%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
+142%
|
18−20
−142%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 53
+104%
|
24−27
−104%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
+120%
|
10−11
−120%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
Grand Theft Auto V | 59
+146%
|
24
−146%
|
Metro Exodus | 21−24
+188%
|
8−9
−188%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 29
+93.3%
|
15
−93.3%
|
Valorant | 160−170
+142%
|
65−70
−142%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 32
+88.2%
|
16−18
−88.2%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
+200%
|
4−5
−200%
|
Dota 2 | 85−90
+83%
|
47
−83%
|
Far Cry 5 | 24
+84.6%
|
12−14
−84.6%
|
Forza Horizon 4 | 34
+61.9%
|
21−24
−61.9%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
+160%
|
10−11
−160%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20
+81.8%
|
10−12
−81.8%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
+108%
|
12−14
−108%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 980 และ GTX 1050 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 980 เร็วกว่า 114% ในความละเอียด 1080p
- GTX 980 เร็วกว่า 122% ในความละเอียด 1440p
- GTX 980 เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 980 เร็วกว่า 817%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น GTX 980 เหนือกว่า GTX 1050 ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 28.74 | 13.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 19 กันยายน 2014 | 25 ตุลาคม 2016 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 75 วัตต์ |
GTX 980 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 121.1% และ
ในทางกลับกัน GTX 1050 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 120%
GeForce GTX 980 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 ในการทดสอบประสิทธิภาพ