GeForce GTX 1660 Super เทียบกับ GTX 980 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 980 Ti และ GeForce GTX 1660 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
980 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า 1660 Super เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 178 | 207 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 7 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 12.39 | 45.50 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.07 | 18.66 |
| สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Turing (2018−2022) |
| ชื่อรหัส GPU | GM200 | TU116 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 2 มิถุนายน 2015 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 29 ตุลาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $649 | $229 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Super มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 980 Ti อยู่ 267%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2816 | 1408 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1530 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1075 MHz | 1785 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 8,000 million | 6,600 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 125 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 189.4 | 157.1 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.06 TFLOPS | 5.027 TFLOPS |
| ROPs | 96 | 48 |
| TMUs | 176 | 88 |
| L1 Cache | 1 เอ็มบี | 1.4 เอ็มบี |
| L2 Cache | 3 เอ็มบี | 1536 เคบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
| ความยาว | 267 mm | 229 mm |
| ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
| กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 600 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 8-pin |
| ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 6 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 7.0 จีบี/s | 1750 MHz |
| 336.5 จีบี/s | 336.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | Dual Link DVI-I, HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.2 | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
| รองรับหลายจอภาพ | 4 displays | ไม่มีข้อมูล |
| HDMI | + | + |
| HDCP | + | + |
| ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
| รองรับ G-SYNC | + | + |
| อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| GameStream | + | - |
| GeForce ShadowPlay | + | - |
| GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
| GameWorks | + | - |
| NVENC | ไม่มีข้อมูล | + |
| Ansel | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.5 |
| OpenGL | 4.5 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 1.2 |
| Vulkan | 1.3 | 1.2.131 |
| CUDA | + | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - Showcase
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 100
+12.4%
| 89
−12.4%
|
| 1440p | 49
−12.2%
| 55
+12.2%
|
| 4K | 51
+70%
| 30
−70%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 6.49
−152%
| 2.57
+152%
|
| 1440p | 13.24
−218%
| 4.16
+218%
|
| 4K | 12.73
−66.7%
| 7.63
+66.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 180−190
−53.2%
|
285
+53.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 75−80
−1.3%
|
76
+1.3%
|
| Hogwarts Legacy | 70−75
−18.9%
|
88
+18.9%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 120−130
+23.7%
|
97
−23.7%
|
| Counter-Strike 2 | 180−190
−30.6%
|
243
+30.6%
|
| Cyberpunk 2077 | 75−80
+19%
|
63
−19%
|
| Far Cry 5 | 100−110
−4.7%
|
112
+4.7%
|
| Fortnite | 140−150
+5.7%
|
140−150
−5.7%
|
| Forza Horizon 4 | 120−130
−11.6%
|
144
+11.6%
|
| Forza Horizon 5 | 100−110
−2.9%
|
108
+2.9%
|
| Hogwarts Legacy | 70−75
+13.8%
|
65
−13.8%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+8.1%
|
120−130
−8.1%
|
| Valorant | 200−210
−57.4%
|
321
+57.4%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 120−130
+44.6%
|
83
−44.6%
|
| Counter-Strike 2 | 180−190
+56.3%
|
119
−56.3%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.7%
|
270−280
−0.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 75−80
+44.2%
|
52
−44.2%
|
| Dota 2 | 130−140
−67.4%
|
231
+67.4%
|
| Far Cry 5 | 100−110
+3.9%
|
103
−3.9%
|
| Fortnite | 140−150
+5.7%
|
140−150
−5.7%
|
| Forza Horizon 4 | 120−130
−4.7%
|
135
+4.7%
|
| Forza Horizon 5 | 100−110
+11.7%
|
94
−11.7%
|
| Grand Theft Auto V | 34
−291%
|
133
+291%
|
| Hogwarts Legacy | 70−75
+45.1%
|
51
−45.1%
|
| Metro Exodus | 75−80
+37.5%
|
56
−37.5%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−4.5%
|
139
+4.5%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−1.8%
|
113
+1.8%
|
| Valorant | 200−210
−42.2%
|
290
+42.2%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 94
+22.1%
|
77
−22.1%
|
| Cyberpunk 2077 | 75−80
+53.1%
|
49
−53.1%
|
| Dota 2 | 130−140
−52.9%
|
211
+52.9%
|
| Far Cry 5 | 77
−23.4%
|
95
+23.4%
|
| Forza Horizon 4 | 72
−48.6%
|
107
+48.6%
|
| Hogwarts Legacy | 70−75
+174%
|
27
−174%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 72
−44.4%
|
104
+44.4%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 59
−3.4%
|
61
+3.4%
|
| Valorant | 200−210
+67.2%
|
122
−67.2%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 88
−60.2%
|
140−150
+60.2%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 75−80
+17.9%
|
67
−17.9%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+7.9%
|
210−220
−7.9%
|
| Grand Theft Auto V | 65−70
+6.5%
|
62
−6.5%
|
| Metro Exodus | 45−50
+30.6%
|
36
−30.6%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+8%
|
162
−8%
|
| Valorant | 230−240
−10.1%
|
262
+10.1%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 85−90
+46.7%
|
60
−46.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 35−40
+38.5%
|
26
−38.5%
|
| Far Cry 5 | 75−80
+21.5%
|
65
−21.5%
|
| Forza Horizon 4 | 90−95
+8.3%
|
84
−8.3%
|
| Hogwarts Legacy | 35−40
−2.6%
|
39
+2.6%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+11.3%
|
50−55
−11.3%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 85−90
+9%
|
75−80
−9%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 35−40
+125%
|
16
−125%
|
| Grand Theft Auto V | 79
+31.7%
|
60
−31.7%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
+5%
|
20−22
−5%
|
| Metro Exodus | 30−33
+36.4%
|
22
−36.4%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+10%
|
40
−10%
|
| Valorant | 200−210
+53%
|
132
−53%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 40
+11.1%
|
36
−11.1%
|
| Counter-Strike 2 | 35−40
+9.1%
|
30−35
−9.1%
|
| Cyberpunk 2077 | 16−18
+45.5%
|
11
−45.5%
|
| Dota 2 | 132
+38.9%
|
95
−38.9%
|
| Far Cry 5 | 30
−10%
|
33
+10%
|
| Forza Horizon 4 | 42
−28.6%
|
54
+28.6%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
+40%
|
15
−40%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 26
−38.5%
|
36
+38.5%
|
4K
Epic
| Fortnite | 32
−15.6%
|
35−40
+15.6%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 980 Ti และ GTX 1660 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 980 Ti เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1660 Super เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1440p
- GTX 980 Ti เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 980 Ti เร็วกว่า 174%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Super เร็วกว่า 291%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 980 Ti เหนือกว่าใน 40การทดสอบ (61%)
- GTX 1660 Super เหนือกว่าใน 26การทดสอบ (39%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 32.76 | 30.33 |
| ความใหม่ล่าสุด | 2 มิถุนายน 2015 | 29 ตุลาคม 2019 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 125 วัตต์ |
GTX 980 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8%
ในทางกลับกัน GTX 1660 Super มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 100%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce GTX 980 Ti และ GeForce GTX 1660 Super ได้อย่างชัดเจน
