GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ GTX 560 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 560 Ti และ GeForce RTX 2070 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 560 Ti อย่างมหาศาลถึง 496% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 527 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 97 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.84 | 40.84 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.22 | 15.17 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GF114 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 25 มกราคม 2011 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $249 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2070 Super มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 560 Ti อยู่ 2120%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 823 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,950 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 52.67 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.263 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 64 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1002 MHz | 1750 MHz |
128.3 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 2x DVI, 1x mini-HDMI | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 1.2 |
Vulkan | N/A | 1.2.131 |
CUDA | 2.1 | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 63
−456%
| 350−400
+456%
|
Full HD | 65
−109%
| 136
+109%
|
1440p | 12−14
−567%
| 80
+567%
|
4K | 8−9
−563%
| 53
+563%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.83
−4.4%
| 3.67
+4.4%
|
1440p | 20.75
−233%
| 6.24
+233%
|
4K | 31.13
−231%
| 9.42
+231%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 18−20
−983%
|
195
+983%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−680%
|
117
+680%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−527%
|
94
+527%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 18−20
−717%
|
147
+717%
|
Battlefield 5 | 30−35
−269%
|
118
+269%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−540%
|
96
+540%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−460%
|
84
+460%
|
Far Cry 5 | 24−27
−413%
|
123
+413%
|
Fortnite | 45−50
−384%
|
218
+384%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−427%
|
174
+427%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−628%
|
131
+628%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−589%
|
186
+589%
|
Valorant | 75−80
−258%
|
279
+258%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−378%
|
86
+378%
|
Battlefield 5 | 30−35
−222%
|
103
+222%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−460%
|
84
+460%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−134%
|
270−280
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−420%
|
78
+420%
|
Dota 2 | 55−60
−140%
|
137
+140%
|
Far Cry 5 | 24−27
−388%
|
117
+388%
|
Fortnite | 45−50
−329%
|
193
+329%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−421%
|
172
+421%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−467%
|
102
+467%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−418%
|
145
+418%
|
Metro Exodus | 14−16
−543%
|
90
+543%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−511%
|
165
+511%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−805%
|
181
+805%
|
Valorant | 75−80
−246%
|
270
+246%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−197%
|
95
+197%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−420%
|
78
+420%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−387%
|
73
+387%
|
Dota 2 | 55−60
−126%
|
129
+126%
|
Far Cry 5 | 24−27
−358%
|
110
+358%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−364%
|
153
+364%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−456%
|
100
+456%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−470%
|
154
+470%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−400%
|
100
+400%
|
Valorant | 75−80
−149%
|
194
+149%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−273%
|
168
+273%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−240%
|
30−35
+240%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 55−60
−430%
|
300−350
+430%
|
Grand Theft Auto V | 10−11
−850%
|
95
+850%
|
Metro Exodus | 7−8
−714%
|
57
+714%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−338%
|
170−180
+338%
|
Valorant | 85−90
−209%
|
263
+209%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−453%
|
83
+453%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−683%
|
47
+683%
|
Far Cry 5 | 14−16
−553%
|
98
+553%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−594%
|
125
+594%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−423%
|
68
+423%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10−12
−682%
|
85−90
+682%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−680%
|
117
+680%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 6−7
−500%
|
35−40
+500%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1000%
|
21−24
+1000%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−417%
|
93
+417%
|
Metro Exodus | 3−4
−1133%
|
37
+1133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−1033%
|
68
+1033%
|
Valorant | 35−40
−579%
|
258
+579%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 7−8
−657%
|
53
+657%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−500%
|
12
+500%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−1050%
|
23
+1050%
|
Dota 2 | 27−30
−374%
|
128
+374%
|
Far Cry 5 | 8−9
−575%
|
54
+575%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−600%
|
84
+600%
|
Forza Horizon 5 | 5−6
−680%
|
39
+680%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 7−8
−843%
|
66
+843%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 7−8
−729%
|
58
+729%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 560 Ti และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 456% ในความละเอียด 900p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 109% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 567% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 563% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 1133%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2070 Super เหนือกว่า GTX 560 Ti ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 7.91 | 47.12 |
ความใหม่ล่าสุด | 25 มกราคม 2011 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GTX 560 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 26.5%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 495.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 233.3%
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 560 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ