Radeon RX 5700 เทียบกับ GeForce GTX 560 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 560 Ti และ Radeon RX 5700 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 5700 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 560 Ti อย่างมหาศาลถึง 370% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 518 | 125 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 39 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.84 | 44.49 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.24 | 14.37 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | GF114 | Navi 10 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 25 มกราคม 2011 (เมื่อ 13 ปี ปีที่แล้ว) | 7 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $249 | $349 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 5700 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 560 Ti อยู่ 2318%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 823 MHz | 1465 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,950 million | 10,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 52.67 | 248.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.263 TFLOPS | 7.949 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 64 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 268 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1002 MHz | 1750 MHz |
128.3 จีบี/s | 448.0 จีบี/s |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 2x DVI, 1x mini-HDMI | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 2.0 |
Vulkan | N/A | 1.2.131 |
CUDA | 2.1 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 63
−360%
| 290−300
+360%
|
Full HD | 63
−84.1%
| 116
+84.1%
|
1440p | 14−16
−400%
| 70
+400%
|
4K | 9−10
−378%
| 43
+378%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.95
+31.4%
| 3.01
−31.4%
|
1440p | 17.79
+257%
| 4.99
−257%
|
4K | 27.67
+241%
| 8.12
−241%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 12−14
−600%
|
84
+600%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 20−22
−285%
|
77
+285%
|
Assassin's Creed Valhalla | 10−12
−782%
|
97
+782%
|
Battlefield 5 | 24−27
−650%
|
180
+650%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 16−18
−538%
|
102
+538%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−525%
|
75
+525%
|
Far Cry 5 | 18−20
−522%
|
112
+522%
|
Far Cry New Dawn | 21−24
−350%
|
99
+350%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−454%
|
288
+454%
|
Hitman 3 | 14−16
−407%
|
76
+407%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−553%
|
294
+553%
|
Metro Exodus | 21−24
−526%
|
144
+526%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−414%
|
113
+414%
|
Shadow of the Tomb Raider | 24−27
−423%
|
130−140
+423%
|
Watch Dogs: Legion | 55−60
−363%
|
259
+363%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 20−22
−550%
|
130
+550%
|
Assassin's Creed Valhalla | 10−12
−627%
|
80
+627%
|
Battlefield 5 | 24−27
−504%
|
145
+504%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 16−18
−475%
|
92
+475%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−458%
|
67
+458%
|
Far Cry 5 | 18−20
−400%
|
90
+400%
|
Far Cry New Dawn | 21−24
−309%
|
90
+309%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−431%
|
276
+431%
|
Hitman 3 | 14−16
−400%
|
75
+400%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−547%
|
291
+547%
|
Metro Exodus | 21−24
−522%
|
143
+522%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−345%
|
98
+345%
|
Shadow of the Tomb Raider | 24−27
−573%
|
175
+573%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−239%
|
75−80
+239%
|
Watch Dogs: Legion | 55−60
−334%
|
243
+334%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 20−22
−200%
|
60
+200%
|
Assassin's Creed Valhalla | 10−12
−600%
|
77
+600%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 16−18
−325%
|
68
+325%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−383%
|
58
+383%
|
Far Cry 5 | 18−20
−256%
|
64
+256%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−127%
|
118
+127%
|
Hitman 3 | 14−16
−387%
|
73
+387%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−164%
|
119
+164%
|
Shadow of the Tomb Raider | 24−27
−496%
|
155
+496%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−296%
|
91
+296%
|
Watch Dogs: Legion | 55−60
−3.6%
|
58
+3.6%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−364%
|
102
+364%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 14−16
−580%
|
102
+580%
|
Far Cry New Dawn | 12−14
−508%
|
73
+508%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 8−9
−538%
|
51
+538%
|
Assassin's Creed Valhalla | 3−4
−1667%
|
53
+1667%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 8−9
−525%
|
50
+525%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−800%
|
36
+800%
|
Far Cry 5 | 9−10
−478%
|
52
+478%
|
Forza Horizon 4 | 30−33
−790%
|
267
+790%
|
Hitman 3 | 10−12
−400%
|
55
+400%
|
Horizon Zero Dawn | 16−18
−447%
|
93
+447%
|
Metro Exodus | 10−11
−840%
|
94
+840%
|
Shadow of the Tomb Raider | 7−8
−1443%
|
108
+1443%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 7−8
−657%
|
50−55
+657%
|
Watch Dogs: Legion | 50−55
−388%
|
244
+388%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 12−14
−438%
|
70
+438%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 7−8
−657%
|
53
+657%
|
Far Cry New Dawn | 5−6
−680%
|
39
+680%
|
Hitman 3 | 4−5
−875%
|
39
+875%
|
Horizon Zero Dawn | 27−30
−314%
|
116
+314%
|
Metro Exodus | 5−6
−1040%
|
57
+1040%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 5−6
−860%
|
48
+860%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 5−6
−520%
|
31
+520%
|
Assassin's Creed Valhalla | 3−4
−933%
|
31
+933%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 3−4
−767%
|
26
+767%
|
Cyberpunk 2077 | 1−2
−1400%
|
15
+1400%
|
Far Cry 5 | 4−5
−550%
|
26
+550%
|
Forza Horizon 4 | 9−10
−678%
|
70
+678%
|
Shadow of the Tomb Raider | 3−4
−2033%
|
64
+2033%
|
Watch Dogs: Legion | 3−4
−267%
|
11
+267%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 8−9
−338%
|
35
+338%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 560 Ti และ RX 5700 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เร็วกว่า 360% ในความละเอียด 900p
- RX 5700 เร็วกว่า 84% ในความละเอียด 1080p
- RX 5700 เร็วกว่า 400% ในความละเอียด 1440p
- RX 5700 เร็วกว่า 378% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Shadow of the Tomb Raider ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 5700 เร็วกว่า 2033%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 5700 เหนือกว่า GTX 560 Ti ในการทดสอบทั้ง 72 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 7.96 | 37.41 |
ความใหม่ล่าสุด | 25 มกราคม 2011 | 7 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 180 วัตต์ |
GTX 560 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 5.9%
ในทางกลับกัน RX 5700 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 370% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 471.4%
Radeon RX 5700 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 560 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ