Radeon RX 5700 เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q กับ Radeon RX 5700 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 5700 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti Max-Q อย่างน่าประทับใจ 63% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 248 | 125 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 39 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 69.09 | 44.29 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.34 | 14.33 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Navi 10 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 7 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $349 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti Max-Q มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 5700 อยู่ 56%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1140 MHz | 1465 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1335 MHz | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 10,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 128.2 | 248.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.101 TFLOPS | 7.949 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 96 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 268 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 78
−48.7%
| 116
+48.7%
|
1440p | 40−45
−75%
| 70
+75%
|
4K | 34
−26.5%
| 43
+26.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.94
+2.5%
| 3.01
−2.5%
|
1440p | 5.73
−14.8%
| 4.99
+14.8%
|
4K | 6.74
+20.5%
| 8.12
−20.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−100%
|
82
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−82.6%
|
84
+82.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 70−75
−29.6%
|
92
+29.6%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−63.4%
|
67
+63.4%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−60.9%
|
74
+60.9%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−116%
|
214
+116%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−107%
|
126
+107%
|
Metro Exodus | 81
−82.7%
|
148
+82.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 92
−22.8%
|
113
+22.8%
|
Valorant | 102
−78.4%
|
182
+78.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 85
−107%
|
176
+107%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−39%
|
57
+39%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−37%
|
63
+37%
|
Dota 2 | 89
−60.7%
|
143
+60.7%
|
Far Cry 5 | 62
−24.2%
|
77
+24.2%
|
Fortnite | 110−120
−41.9%
|
160−170
+41.9%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−76.8%
|
175
+76.8%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−59%
|
97
+59%
|
Grand Theft Auto V | 87
−57.5%
|
137
+57.5%
|
Metro Exodus | 57
−78.9%
|
102
+78.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 172
−25%
|
215
+25%
|
Red Dead Redemption 2 | 38
−55.3%
|
59
+55.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−79.5%
|
130−140
+79.5%
|
Valorant | 63
−58.7%
|
100
+58.7%
|
World of Tanks | 240−250
−12.5%
|
270−280
+12.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−12.7%
|
80
+12.7%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−22%
|
50
+22%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−19.6%
|
55
+19.6%
|
Dota 2 | 86
−69.8%
|
146
+69.8%
|
Far Cry 5 | 117
+23.2%
|
95−100
−23.2%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−56.6%
|
155
+56.6%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−54.1%
|
94
+54.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Valorant | 93
−72%
|
160
+72%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 35−40
−89.5%
|
72
+89.5%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−89.5%
|
72
+89.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−76.2%
|
37
+76.2%
|
World of Tanks | 150−160
−55.6%
|
230−240
+55.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−69.6%
|
78
+69.6%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
32
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−78.9%
|
34
+78.9%
|
Far Cry 5 | 65−70
−86.2%
|
120−130
+86.2%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−80%
|
108
+80%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−73%
|
64
+73%
|
Metro Exodus | 50−55
−80.8%
|
94
+80.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−93.9%
|
60−65
+93.9%
|
Valorant | 60−65
−80.3%
|
110
+80.3%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
−25%
|
25
+25%
|
Dota 2 | 35−40
−84.6%
|
72
+84.6%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−84.6%
|
72
+84.6%
|
Metro Exodus | 16−18
−82.4%
|
31
+82.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−91.3%
|
132
+91.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
−71.4%
|
24
+71.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−84.6%
|
72
+84.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
−104%
|
47
+104%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−90%
|
35−40
+90%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−114%
|
15
+114%
|
Dota 2 | 35−40
−156%
|
100
+156%
|
Far Cry 5 | 30−33
−83.3%
|
55−60
+83.3%
|
Fortnite | 27−30
−85.7%
|
50−55
+85.7%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−82.9%
|
64
+82.9%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−78.9%
|
34
+78.9%
|
Valorant | 27−30
−93.1%
|
56
+93.1%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti Max-Q และ RX 5700 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เร็วกว่า 49% ในความละเอียด 1080p
- RX 5700 เร็วกว่า 75% ในความละเอียด 1440p
- RX 5700 เร็วกว่า 26% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 23%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 5700 เร็วกว่า 156%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti Max-Q เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 5700 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.93 | 37.42 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 7 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 วัตต์ | 180 วัตต์ |
GTX 1660 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 200%
ในทางกลับกัน RX 5700 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 63.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
Radeon RX 5700 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Radeon RX 5700 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ