GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เทียบกับ Radeon RX 5700
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5700 กับ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 5700 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Ti Max-Q อย่างมหาศาลถึง 123% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 125 | 330 |
จัดอันดับตามความนิยม | 39 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 44.29 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.33 | 23.12 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 10 | TU117 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $349 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1465 MHz | 1035 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 10,300 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 248.4 | 76.80 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.949 TFLOPS | 2.458 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 144 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 268 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1250 MHz |
448.0 จีบี/s | 160.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 116
+107%
| 56
−107%
|
1440p | 70
+94.4%
| 36
−94.4%
|
4K | 43
+79.2%
| 24
−79.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.01 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.99 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 8.12 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 82
+183%
|
27−30
−183%
|
Cyberpunk 2077 | 84
+155%
|
30−35
−155%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 92
+70.4%
|
50−55
−70.4%
|
Counter-Strike 2 | 67
+131%
|
27−30
−131%
|
Cyberpunk 2077 | 74
+335%
|
17
−335%
|
Forza Horizon 4 | 214
+178%
|
77
−178%
|
Forza Horizon 5 | 126
+180%
|
45−50
−180%
|
Metro Exodus | 148
+164%
|
56
−164%
|
Red Dead Redemption 2 | 113
+79.4%
|
63
−79.4%
|
Valorant | 182
+100%
|
91
−100%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 176
+226%
|
50−55
−226%
|
Counter-Strike 2 | 57
+96.6%
|
27−30
−96.6%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+385%
|
13
−385%
|
Dota 2 | 143
+74.4%
|
82
−74.4%
|
Far Cry 5 | 77
+14.9%
|
67
−14.9%
|
Fortnite | 160−170
+80.4%
|
90−95
−80.4%
|
Forza Horizon 4 | 175
+182%
|
62
−182%
|
Forza Horizon 5 | 97
+116%
|
45−50
−116%
|
Grand Theft Auto V | 137
+104%
|
67
−104%
|
Metro Exodus | 102
+168%
|
38
−168%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 215
+82.2%
|
110−120
−82.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 59
+47.5%
|
40−45
−47.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 130−140
+152%
|
50−55
−152%
|
Valorant | 100
+138%
|
42
−138%
|
World of Tanks | 270−280
+33.5%
|
200−210
−33.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80
+48.1%
|
50−55
−48.1%
|
Counter-Strike 2 | 50
+72.4%
|
27−30
−72.4%
|
Cyberpunk 2077 | 55
+400%
|
11
−400%
|
Dota 2 | 146
+37.7%
|
106
−37.7%
|
Far Cry 5 | 95−100
+58.3%
|
60−65
−58.3%
|
Forza Horizon 4 | 155
+187%
|
54
−187%
|
Forza Horizon 5 | 94
+109%
|
45−50
−109%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
+66.9%
|
110−120
−66.9%
|
Valorant | 160
+135%
|
65−70
−135%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 72
+177%
|
26
−177%
|
Grand Theft Auto V | 72
+177%
|
26
−177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+12.2%
|
150−160
−12.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 37
+147%
|
14−16
−147%
|
World of Tanks | 230−240
+105%
|
110−120
−105%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 78
+129%
|
30−35
−129%
|
Counter-Strike 2 | 32
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 34
+162%
|
12−14
−162%
|
Far Cry 5 | 120−130
+188%
|
40−45
−188%
|
Forza Horizon 4 | 108
+209%
|
35
−209%
|
Forza Horizon 5 | 64
+146%
|
24−27
−146%
|
Metro Exodus | 94
+154%
|
35−40
−154%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+178%
|
21−24
−178%
|
Valorant | 110
+162%
|
40−45
−162%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 25
+108%
|
12−14
−108%
|
Dota 2 | 72
+188%
|
25
−188%
|
Grand Theft Auto V | 72
+188%
|
25
−188%
|
Metro Exodus | 31
+158%
|
12−14
−158%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 132
+164%
|
50−55
−164%
|
Red Dead Redemption 2 | 24
+118%
|
10−12
−118%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+188%
|
25
−188%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
+194%
|
16−18
−194%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+217%
|
12−14
−217%
|
Cyberpunk 2077 | 15
+200%
|
5−6
−200%
|
Dota 2 | 100
+92.3%
|
52
−92.3%
|
Far Cry 5 | 55−60
+162%
|
21−24
−162%
|
Fortnite | 50−55
+174%
|
18−20
−174%
|
Forza Horizon 4 | 64
+205%
|
21
−205%
|
Forza Horizon 5 | 34
+162%
|
12−14
−162%
|
Valorant | 56
+195%
|
18−20
−195%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5700 และ GTX 1650 Ti Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เร็วกว่า 107% ในความละเอียด 1080p
- RX 5700 เร็วกว่า 94% ในความละเอียด 1440p
- RX 5700 เร็วกว่า 79% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 5700 เร็วกว่า 400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 37.42 | 16.78 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กรกฎาคม 2019 | 2 เมษายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 วัตต์ | 50 วัตต์ |
RX 5700 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 123% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
ในทางกลับกัน GTX 1650 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 260%
Radeon RX 5700 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 5700 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ