GeForce RTX 3060 เทียบกับ GTX 1050 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 Max-Q กับ GeForce RTX 3060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3060 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 322% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 442 | 84 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 5 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 69.99 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.66 | 17.99 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP107 | GA106 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $329 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1190 MHz | 1320 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1328 MHz | 1777 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 170 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 53.12 | 199.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.7 TFLOPS | 12.74 TFLOPS |
ROPs | 16 | 48 |
TMUs | 40 | 112 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 242 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1875 MHz |
112.1 จีบี/s | 360.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 46
−157%
| 118
+157%
|
1440p | 27
−152%
| 68
+152%
|
4K | 14
−236%
| 47
+236%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.79 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.84 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.00 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24−27
−421%
|
120−130
+421%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−433%
|
95−100
+433%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−295%
|
79
+295%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 24−27
−421%
|
120−130
+421%
|
Battlefield 5 | 46
−198%
|
130−140
+198%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−439%
|
97
+439%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−290%
|
78
+290%
|
Far Cry 5 | 37
−295%
|
146
+295%
|
Fortnite | 112
−57.1%
|
170−180
+57.1%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−267%
|
150−160
+267%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−396%
|
124
+396%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−354%
|
150−160
+354%
|
Valorant | 90−95
−153%
|
230−240
+153%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−421%
|
120−130
+421%
|
Battlefield 5 | 40
−243%
|
130−140
+243%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−361%
|
83
+361%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 144
−93.1%
|
270−280
+93.1%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−275%
|
75
+275%
|
Dota 2 | 116
−34.5%
|
156
+34.5%
|
Far Cry 5 | 34
−297%
|
135
+297%
|
Fortnite | 49
−259%
|
170−180
+259%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−267%
|
150−160
+267%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−284%
|
96
+284%
|
Grand Theft Auto V | 45
−213%
|
141
+213%
|
Metro Exodus | 19
−326%
|
81
+326%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 51
−212%
|
150−160
+212%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−409%
|
178
+409%
|
Valorant | 90−95
−153%
|
230−240
+153%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
−270%
|
130−140
+270%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−300%
|
72
+300%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−220%
|
64
+220%
|
Dota 2 | 104
−41.3%
|
147
+41.3%
|
Far Cry 5 | 31
−310%
|
127
+310%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−267%
|
150−160
+267%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−216%
|
79
+216%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 34
−368%
|
150−160
+368%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
−290%
|
82
+290%
|
Valorant | 90−95
−153%
|
230−240
+153%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 37
−376%
|
170−180
+376%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 94
−200%
|
280−290
+200%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−479%
|
81
+479%
|
Metro Exodus | 11
−355%
|
50
+355%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−257%
|
170−180
+257%
|
Valorant | 110−120
−141%
|
260−270
+141%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−316%
|
100−110
+316%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−285%
|
50−55
+285%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−388%
|
39
+388%
|
Far Cry 5 | 22
−327%
|
94
+327%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−396%
|
110−120
+396%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−265%
|
62
+265%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−380%
|
72
+380%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−424%
|
110−120
+424%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−325%
|
30−35
+325%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−567%
|
20−22
+567%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 53
−315%
|
220−230
+315%
|
Grand Theft Auto V | 28
−193%
|
82
+193%
|
Metro Exodus | 7
−357%
|
32
+357%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−392%
|
64
+392%
|
Valorant | 50−55
−379%
|
240−250
+379%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
−450%
|
65−70
+450%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−200%
|
9
+200%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−500%
|
18
+500%
|
Dota 2 | 37
−211%
|
115
+211%
|
Far Cry 5 | 11
−336%
|
48
+336%
|
Forza Horizon 4 | 16−18
−371%
|
80−85
+371%
|
Forza Horizon 5 | 7−8
−414%
|
36
+414%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 11
−427%
|
55−60
+427%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9
−511%
|
55−60
+511%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 Max-Q และ RTX 3060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 เร็วกว่า 152% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3060 เร็วกว่า 236% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 567%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 10.39 | 43.87 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2018 | 12 มกราคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 170 วัตต์ |
GTX 1050 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 126.7%
ในทางกลับกัน RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 322.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%
GeForce RTX 3060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1050 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 3060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป