Radeon RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ UHD Graphics 730 (Rocket Lake)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) และ Radeon RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) อย่างมหาศาลถึง 132% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 372 | 588 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 64.71 | 27.90 |
สถาปัตยกรรม | ไม่มีข้อมูล | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Rocket Lake GT1 | Vega Renoir |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 มีนาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | ไม่มีข้อมูล | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | ไม่มีข้อมูล | 400 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1500 MHz |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | ไม่มีข้อมูล | 12_1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 12
−75%
| 21
+75%
|
1440p | 50−55
+127%
| 22
−127%
|
4K | 35−40
+106%
| 17
−106%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+100%
|
12−14
−100%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+155%
|
11
−155%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 45−50
+142%
|
18−20
−142%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+167%
|
9
−167%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+211%
|
9
−211%
|
Forza Horizon 4 | 14
−85.7%
|
26
+85.7%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+131%
|
16
−131%
|
Metro Exodus | 10
−40%
|
14
+40%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
+59.1%
|
22
−59.1%
|
Valorant | 55−60
+128%
|
25
−128%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 45−50
+142%
|
18−20
−142%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+200%
|
8
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+833%
|
3
−833%
|
Dota 2 | 13
−84.6%
|
24
+84.6%
|
Far Cry 5 | 18
−44.4%
|
26
+44.4%
|
Fortnite | 75−80
+119%
|
35−40
−119%
|
Forza Horizon 4 | 12
−75%
|
21
+75%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Grand Theft Auto V | 6
−150%
|
15
+150%
|
Metro Exodus | 7
−114%
|
14−16
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
+164%
|
39
−164%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
+94.4%
|
18−20
−94.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
+126%
|
18−20
−126%
|
Valorant | 55−60
+375%
|
12
−375%
|
World of Tanks | 180−190
+232%
|
56
−232%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
+142%
|
18−20
−142%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+243%
|
7
−243%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Dota 2 | 25
−60%
|
40
+60%
|
Far Cry 5 | 50−55
+89.3%
|
27−30
−89.3%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+217%
|
18
−217%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
+106%
|
50−55
−106%
|
Valorant | 55−60
+200%
|
19
−200%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 20−22
+233%
|
6−7
−233%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
+200%
|
7−8
−200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
+216%
|
35−40
−216%
|
Red Dead Redemption 2 | 12−14
+140%
|
5−6
−140%
|
World of Tanks | 95−100
+125%
|
40−45
−125%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
+180%
|
10−11
−180%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
+120%
|
5−6
−120%
|
Far Cry 5 | 30−35
+162%
|
12−14
−162%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
+209%
|
10−12
−209%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
+144%
|
9−10
−144%
|
Metro Exodus | 30−33
+329%
|
7−8
−329%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
+111%
|
9−10
−111%
|
Valorant | 35−40
+119%
|
16−18
−119%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+200%
|
3−4
−200%
|
Dota 2 | 24−27
+47.1%
|
16−18
−47.1%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
+47.1%
|
16−18
−47.1%
|
Metro Exodus | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+141%
|
16−18
−141%
|
Red Dead Redemption 2 | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+47.1%
|
16−18
−47.1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+200%
|
3−4
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
+100%
|
2−3
−100%
|
Dota 2 | 24−27
+31.6%
|
19
−31.6%
|
Far Cry 5 | 18−20
+157%
|
7−8
−157%
|
Fortnite | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Forza Horizon 4 | 20−22
+233%
|
6−7
−233%
|
Forza Horizon 5 | 10−12
+175%
|
4−5
−175%
|
Valorant | 14−16
+150%
|
6−7
−150%
|
นี่คือวิธีที่ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) และ RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 75% ในความละเอียด 1080p
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 127% ในความละเอียด 1440p
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 833%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 150%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (85%)
- RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.08 | 6.07 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 มีนาคม 2021 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 132% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
ในทางกลับกัน RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 6 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ