Radeon RX Vega 5 เทียบกับ UHD Graphics 730 (Rocket Lake)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) และ Radeon RX Vega 5 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 5 อย่างมหาศาลถึง 204% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 385 | 670 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 63.50 | 20.92 |
สถาปัตยกรรม | ไม่มีข้อมูล | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Rocket Lake GT1 | Vega |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 มีนาคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | ไม่มีข้อมูล | 320 |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1400 MHz |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | ไม่มีข้อมูล | 12_1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 12
−58.3%
| 19
+58.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
+72.1%
|
43
−72.1%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+200%
|
9
−200%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
+118%
|
11
−118%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 55−60
+159%
|
22
−159%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+155%
|
29
−155%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+200%
|
9−10
−200%
|
Far Cry 5 | 9
−66.7%
|
15
+66.7%
|
Fortnite | 75−80
+46.2%
|
52
−46.2%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+180%
|
20−22
−180%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+147%
|
17
−147%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
+200%
|
8
−200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
+182%
|
16−18
−182%
|
Valorant | 110−120
+98.2%
|
55−60
−98.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 55−60
+217%
|
18
−217%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+957%
|
7
−957%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 180−190
+266%
|
50
−266%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+200%
|
9−10
−200%
|
Dota 2 | 27
−44.4%
|
39
+44.4%
|
Far Cry 5 | 8
−50%
|
12
+50%
|
Fortnite | 75−80
+262%
|
21
−262%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+180%
|
20−22
−180%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+180%
|
15
−180%
|
Grand Theft Auto V | 6
−117%
|
13
+117%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
+167%
|
9−10
−167%
|
Metro Exodus | 7
+75%
|
4
−75%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
+182%
|
16−18
−182%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+143%
|
14
−143%
|
Valorant | 110−120
+98.2%
|
55−60
−98.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+256%
|
16
−256%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+200%
|
9−10
−200%
|
Dota 2 | 25
−48%
|
37
+48%
|
Far Cry 5 | 8
−50%
|
12−14
+50%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+180%
|
20−22
−180%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
+167%
|
9−10
−167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
+182%
|
16−18
−182%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+278%
|
9
−278%
|
Valorant | 110−120
+98.2%
|
55−60
−98.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+533%
|
12
−533%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+317%
|
6−7
−317%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
+197%
|
30−35
−197%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
+425%
|
4−5
−425%
|
Metro Exodus | 16−18
+433%
|
3−4
−433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
+239%
|
30−35
−239%
|
Valorant | 130−140
+196%
|
45−50
−196%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
+1700%
|
2−3
−1700%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
+300%
|
3−4
−300%
|
Far Cry 5 | 27−30
+314%
|
7−8
−314%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
+220%
|
10−11
−220%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
+250%
|
4−5
−250%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
+217%
|
6−7
−217%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 27−30
+263%
|
8−9
−263%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
+56.3%
|
16−18
−56.3%
|
Hogwarts Legacy | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Metro Exodus | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18 | 0−1 |
Valorant | 70−75
+223%
|
21−24
−223%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
+1700%
|
1−2
−1700%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
+400%
|
1−2
−400%
|
Dota 2 | 45−50
+243%
|
14−16
−243%
|
Far Cry 5 | 14−16
+367%
|
3−4
−367%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
+360%
|
5−6
−360%
|
Hogwarts Legacy | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
+140%
|
5−6
−140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
นี่คือวิธีที่ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) และ RX Vega 5 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 5 เร็วกว่า 58% ในความละเอียด 1080p
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 1700%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 5 เร็วกว่า 117%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (90%)
- RX Vega 5 เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 12.84 | 4.23 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 มีนาคม 2021 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 203.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
ในทางกลับกัน RX Vega 5 มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 5 ในการทดสอบประสิทธิภาพ