UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เทียบกับ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) และ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) อย่างน่าประทับใจ 56% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 490 | 372 |
จัดอันดับตามความนิยม | 28 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 41.43 | 64.78 |
สถาปัตยกรรม | Vega (2017−2020) | ไม่มีข้อมูล |
ชื่อรหัส GPU | Vega | Rocket Lake GT1 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มีนาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2100 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_1 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 23
+91.7%
| 12
−91.7%
|
1440p | 17
−41.2%
| 24−27
+41.2%
|
4K | 9
−55.6%
| 14−16
+55.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 13
−84.6%
|
24−27
+84.6%
|
Cyberpunk 2077 | 19
−47.4%
|
27−30
+47.4%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 27−30
−58.6%
|
45−50
+58.6%
|
Counter-Strike 2 | 12
−100%
|
24−27
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 15
−86.7%
|
27−30
+86.7%
|
Forza Horizon 4 | 32
+129%
|
14
−129%
|
Forza Horizon 5 | 21
−76.2%
|
35−40
+76.2%
|
Metro Exodus | 27
+170%
|
10
−170%
|
Red Dead Redemption 2 | 33
−6.1%
|
35−40
+6.1%
|
Valorant | 44
−29.5%
|
55−60
+29.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 27−30
−58.6%
|
45−50
+58.6%
|
Counter-Strike 2 | 9
−167%
|
24−27
+167%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−155%
|
27−30
+155%
|
Dota 2 | 29
+123%
|
13
−123%
|
Far Cry 5 | 30
+66.7%
|
18
−66.7%
|
Fortnite | 50−55
−49.1%
|
75−80
+49.1%
|
Forza Horizon 4 | 27
+125%
|
12
−125%
|
Forza Horizon 5 | 13
−185%
|
35−40
+185%
|
Grand Theft Auto V | 19
+217%
|
6
−217%
|
Metro Exodus | 19
+171%
|
7
−171%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 57
−80.7%
|
100−110
+80.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 12
−192%
|
35−40
+192%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−59.3%
|
40−45
+59.3%
|
Valorant | 14
−307%
|
55−60
+307%
|
World of Tanks | 48
−288%
|
180−190
+288%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−58.6%
|
45−50
+58.6%
|
Counter-Strike 2 | 8
−200%
|
24−27
+200%
|
Cyberpunk 2077 | 9
−211%
|
27−30
+211%
|
Dota 2 | 48
+92%
|
25
−92%
|
Far Cry 5 | 35−40
−39.5%
|
50−55
+39.5%
|
Forza Horizon 4 | 23
−148%
|
55−60
+148%
|
Forza Horizon 5 | 14
−164%
|
35−40
+164%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−45.1%
|
100−110
+45.1%
|
Valorant | 37
−54.1%
|
55−60
+54.1%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 9
−122%
|
20−22
+122%
|
Grand Theft Auto V | 9
−133%
|
21−24
+133%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 22
−432%
|
110−120
+432%
|
Red Dead Redemption 2 | 7−8
−71.4%
|
12−14
+71.4%
|
World of Tanks | 21
−371%
|
95−100
+371%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16−18
−64.7%
|
27−30
+64.7%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 2
−450%
|
10−12
+450%
|
Far Cry 5 | 18−20
−73.7%
|
30−35
+73.7%
|
Forza Horizon 4 | 16
−113%
|
30−35
+113%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−69.2%
|
21−24
+69.2%
|
Metro Exodus | 17
−76.5%
|
30−33
+76.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−58.3%
|
18−20
+58.3%
|
Valorant | 39
+11.4%
|
35−40
−11.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 3−4
−200%
|
9−10
+200%
|
Dota 2 | 10
−150%
|
24−27
+150%
|
Grand Theft Auto V | 10
−150%
|
24−27
+150%
|
Metro Exodus | 6
−50%
|
9−10
+50%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 13
−215%
|
40−45
+215%
|
Red Dead Redemption 2 | 6−7
−50%
|
9−10
+50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−150%
|
24−27
+150%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 8−9
−62.5%
|
12−14
+62.5%
|
Counter-Strike 2 | 3−4
−200%
|
9−10
+200%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−33.3%
|
4−5
+33.3%
|
Dota 2 | 18
−38.9%
|
24−27
+38.9%
|
Far Cry 5 | 10−12
−63.6%
|
18−20
+63.6%
|
Fortnite | 9−10
−77.8%
|
16−18
+77.8%
|
Forza Horizon 4 | 9
−122%
|
20−22
+122%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−83.3%
|
10−12
+83.3%
|
Valorant | 9−10
−66.7%
|
14−16
+66.7%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) และ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 1080p
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 41% ในความละเอียด 1440p
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 56% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 217%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 450%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 9การทดสอบ (14%)
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (84%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.01 | 14.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 มกราคม 2020 | 30 มีนาคม 2021 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 14 nm |
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 56.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ