Radeon Vega 7 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX กับ Radeon Vega 7 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
TITAN RTX มีประสิทธิภาพดีกว่า Vega 7 อย่างมหาศาลถึง 573% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 91 | 601 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 14 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 6.56 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.36 | 11.43 |
| สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | GCN 5.1 (2018−2022) |
| ชื่อรหัส GPU | TU102 | Cezanne |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 13 เมษายน 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 448 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 300 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1900 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 9,800 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 45 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 53.20 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 1.702 TFLOPS |
| ROPs | 96 | 8 |
| TMUs | 288 | 28 |
| Tensor Cores | 576 | ไม่มีข้อมูล |
| Ray Tracing Cores | 72 | ไม่มีข้อมูล |
| L1 Cache | 4.5 เอ็มบี | ไม่มีข้อมูล |
| L2 Cache | 6 เอ็มบี | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | IGP |
| ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
| จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | System Shared |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | System Shared |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | System Shared |
| 672.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | No outputs |
| HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 (12_1) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.4 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.0 | 2.1 |
| Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
| CUDA | 7.5 | - |
| DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 161
+600%
| 23
−600%
|
| 1440p | 102
+264%
| 28
−264%
|
| 4K | 73
+306%
| 18
−306%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 15.52 | ไม่มีข้อมูล |
| 1440p | 24.50 | ไม่มีข้อมูล |
| 4K | 34.23 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 353
+938%
|
30−35
−938%
|
| Cyberpunk 2077 | 79
+339%
|
18
−339%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 163
+482%
|
28
−482%
|
| Counter-Strike 2 | 342
+906%
|
30−35
−906%
|
| Cyberpunk 2077 | 79
+464%
|
14
−464%
|
| Escape from Tarkov | 121
+426%
|
23
−426%
|
| Far Cry 5 | 165
+725%
|
20
−725%
|
| Fortnite | 169
+168%
|
63
−168%
|
| Forza Horizon 4 | 187
+405%
|
37
−405%
|
| Forza Horizon 5 | 168
+600%
|
24
−600%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+708%
|
24−27
−708%
|
| Valorant | 348
+370%
|
70−75
−370%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 164
+613%
|
23
−613%
|
| Counter-Strike 2 | 270
+694%
|
30−35
−694%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+379%
|
58
−379%
|
| Cyberpunk 2077 | 79
+690%
|
10
−690%
|
| Dota 2 | 155
+638%
|
21−24
−638%
|
| Escape from Tarkov | 120
+567%
|
18
−567%
|
| Far Cry 5 | 156
+767%
|
18
−767%
|
| Fortnite | 176
+552%
|
27
−552%
|
| Forza Horizon 4 | 186
+431%
|
35
−431%
|
| Forza Horizon 5 | 153
+629%
|
21
−629%
|
| Grand Theft Auto V | 152
+794%
|
17
−794%
|
| Metro Exodus | 134
+931%
|
13
−931%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
+609%
|
23
−609%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 267
+1383%
|
18
−1383%
|
| Valorant | 336
+360%
|
73
−360%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 160
+662%
|
21
−662%
|
| Cyberpunk 2077 | 78
+767%
|
9
−767%
|
| Dota 2 | 148
+605%
|
21−24
−605%
|
| Escape from Tarkov | 119
+341%
|
27−30
−341%
|
| Far Cry 5 | 146
+711%
|
18
−711%
|
| Forza Horizon 4 | 175
+548%
|
27
−548%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
+444%
|
24−27
−444%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+969%
|
13
−969%
|
| Valorant | 236
+844%
|
25
−844%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 134
+857%
|
14
−857%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 157
+1108%
|
12−14
−1108%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+519%
|
50−55
−519%
|
| Grand Theft Auto V | 114
+1529%
|
7−8
−1529%
|
| Metro Exodus | 85
+1317%
|
6−7
−1317%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+338%
|
40−45
−338%
|
| Valorant | 307
+540%
|
48
−540%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 110−120
+769%
|
12−14
−769%
|
| Cyberpunk 2077 | 66
+1220%
|
5−6
−1220%
|
| Escape from Tarkov | 117
+800%
|
12−14
−800%
|
| Far Cry 5 | 134
+857%
|
14−16
−857%
|
| Forza Horizon 4 | 157
+881%
|
16−18
−881%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
+922%
|
9−10
−922%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 120−130
+786%
|
14−16
−786%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 45 | 0−1 |
| Grand Theft Auto V | 134
+644%
|
18−20
−644%
|
| Metro Exodus | 55
+2650%
|
2−3
−2650%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+1960%
|
5−6
−1960%
|
| Valorant | 300
+1100%
|
25
−1100%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 97
+1517%
|
6−7
−1517%
|
| Counter-Strike 2 | 55−60 | 0−1 |
| Cyberpunk 2077 | 33
+1550%
|
2−3
−1550%
|
| Dota 2 | 146
+595%
|
21−24
−595%
|
| Escape from Tarkov | 82
+1540%
|
5−6
−1540%
|
| Far Cry 5 | 80
+1233%
|
6−7
−1233%
|
| Forza Horizon 4 | 114
+936%
|
10−12
−936%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+1271%
|
7−8
−1271%
|
4K
Epic
| Fortnite | 74
+957%
|
7−8
−957%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ Vega 7 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 600% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 264% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 306% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 2650%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น TITAN RTX เหนือกว่า Vega 7 ในการทดสอบทั้ง 59 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 44.88 | 6.67 |
| ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 13 เมษายน 2021 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 45 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 572.9%
ในทางกลับกัน Vega 7 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 522.2%
TITAN RTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Vega 7 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า TITAN RTX เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Vega 7 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
