GeForce RTX 3060 Ti เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 3060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 71 | 55 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 25 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 67.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.99 | 18.18 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 3100%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 4864 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 253.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 16.2 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 288 | 152 |
Tensor Cores | 576 | 152 |
Ray Tracing Cores | 72 | 38 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
672.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
+15%
| 140
−15%
|
1440p | 103
+28.8%
| 80
−28.8%
|
4K | 74
+48%
| 50
−48%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−445%
| 2.85
+445%
|
1440p | 24.26
−386%
| 4.99
+386%
|
4K | 33.77
−323%
| 7.98
+323%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 264
+11.9%
|
236
−11.9%
|
Counter-Strike 2 | 353
+2.6%
|
344
−2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−67.1%
|
132
+67.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
+10%
|
180
−10%
|
Battlefield 5 | 163
+12.4%
|
145
−12.4%
|
Counter-Strike 2 | 342
+3.6%
|
330
−3.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−43%
|
113
+43%
|
Far Cry 5 | 165
+14.6%
|
144
−14.6%
|
Fortnite | 169
−25.4%
|
210−220
+25.4%
|
Forza Horizon 4 | 187
−7%
|
200
+7%
|
Forza Horizon 5 | 168
−4.8%
|
176
+4.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+16.1%
|
170−180
−16.1%
|
Valorant | 348
+28.4%
|
270−280
−28.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 118
+14.6%
|
103
−14.6%
|
Battlefield 5 | 164
+32.3%
|
124
−32.3%
|
Counter-Strike 2 | 270
+20.5%
|
224
−20.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−20.3%
|
95
+20.3%
|
Dota 2 | 155
+6.9%
|
145
−6.9%
|
Far Cry 5 | 156
+13.9%
|
137
−13.9%
|
Fortnite | 176
−20.5%
|
210−220
+20.5%
|
Forza Horizon 4 | 186
−5.4%
|
196
+5.4%
|
Forza Horizon 5 | 153
−3.3%
|
158
+3.3%
|
Grand Theft Auto V | 152
+7.8%
|
141
−7.8%
|
Metro Exodus | 134
+21.8%
|
110
−21.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−6.7%
|
170−180
+6.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
+44.3%
|
185
−44.3%
|
Valorant | 336
+24%
|
270−280
−24%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
+40.4%
|
114
−40.4%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−7.7%
|
84
+7.7%
|
Dota 2 | 148
+9.6%
|
135
−9.6%
|
Far Cry 5 | 146
+13.2%
|
129
−13.2%
|
Forza Horizon 4 | 175
+1.2%
|
173
−1.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−27.9%
|
170−180
+27.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+51.1%
|
92
−51.1%
|
Valorant | 236
−16.1%
|
274
+16.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−58.2%
|
210−220
+58.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
+7.5%
|
146
−7.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−9.5%
|
300−350
+9.5%
|
Grand Theft Auto V | 114
+17.5%
|
97
−17.5%
|
Metro Exodus | 85
+28.8%
|
66
−28.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
+1.7%
|
300−350
−1.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+14.3%
|
98
−14.3%
|
Cyberpunk 2077 | 66
+22.2%
|
54
−22.2%
|
Far Cry 5 | 134
+27.6%
|
105
−27.6%
|
Forza Horizon 4 | 157
+4.7%
|
150
−4.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−12.2%
|
100−110
+12.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−9.8%
|
130−140
+9.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−7.9%
|
40−45
+7.9%
|
Counter-Strike 2 | 45
+25%
|
36
−25%
|
Grand Theft Auto V | 134
+25.2%
|
107
−25.2%
|
Metro Exodus | 55
+27.9%
|
43
−27.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+33.8%
|
77
−33.8%
|
Valorant | 300
+3.8%
|
280−290
−3.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
+49.2%
|
65
−49.2%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−10.7%
|
60−65
+10.7%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+32%
|
25
−32%
|
Dota 2 | 146
+33.9%
|
109
−33.9%
|
Far Cry 5 | 80
+23.1%
|
65
−23.1%
|
Forza Horizon 4 | 114
+10.7%
|
103
−10.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+21.5%
|
75−80
−21.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
+5.7%
|
70−75
−5.7%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 3060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 15% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 29% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 51%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 67%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 42การทดสอบ (67%)
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 19การทดสอบ (30%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.17 | 45.66 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 1 ธันวาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 200 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 40%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง TITAN RTX และ GeForce RTX 3060 Ti ได้อย่างชัดเจน