GeForce RTX 3070 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 3070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างปานกลาง 18% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 64 | 42 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 37 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.11 | 58.27 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.13 | 18.28 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3070 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 2662%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 317.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 20.31 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 288 | 184 |
Tensor Cores | 576 | 184 |
Ray Tracing Cores | 72 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
672.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 8.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 162
+8%
| 150
−8%
|
1440p | 103
+5.1%
| 98
−5.1%
|
4K | 73
+14.1%
| 64
−14.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.43
+364%
| 3.33
−364%
|
1440p | 24.26
+376%
| 5.09
−376%
|
4K | 34.23
+339%
| 7.80
−339%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 79
−86.1%
|
147
+86.1%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 104
−20.2%
|
125
+20.2%
|
Assassin's Creed Valhalla | 104
+4%
|
100
−4%
|
Battlefield 5 | 209
+13.6%
|
180−190
−13.6%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 143
+31.2%
|
100−110
−31.2%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−75.9%
|
139
+75.9%
|
Far Cry 5 | 127
+15.5%
|
110−120
−15.5%
|
Far Cry New Dawn | 201
+43.6%
|
140−150
−43.6%
|
Forza Horizon 4 | 281
+25.4%
|
220−230
−25.4%
|
Hitman 3 | 117
+7.3%
|
109
−7.3%
|
Horizon Zero Dawn | 348
+58.2%
|
220−230
−58.2%
|
Metro Exodus | 144
+0%
|
144
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 127
+7.6%
|
118
−7.6%
|
Shadow of the Tomb Raider | 206
−13.1%
|
230−240
+13.1%
|
Watch Dogs: Legion | 215
+23.6%
|
174
−23.6%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 186
+55%
|
120−130
−55%
|
Assassin's Creed Valhalla | 88
+1.1%
|
87
−1.1%
|
Battlefield 5 | 203
+10.3%
|
180−190
−10.3%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 131
+20.2%
|
100−110
−20.2%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−59.5%
|
126
+59.5%
|
Far Cry 5 | 101
−8.9%
|
110−120
+8.9%
|
Far Cry New Dawn | 154
+10%
|
140−150
−10%
|
Forza Horizon 4 | 254
+13.4%
|
220−230
−13.4%
|
Hitman 3 | 116
+0%
|
116
+0%
|
Horizon Zero Dawn | 336
+52.7%
|
220−230
−52.7%
|
Metro Exodus | 144
+0%
|
144
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 110
−3.6%
|
110−120
+3.6%
|
Shadow of the Tomb Raider | 286
+12.2%
|
255
−12.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
−19.8%
|
120−130
+19.8%
|
Watch Dogs: Legion | 204
+14.6%
|
178
−14.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 79
−2.5%
|
81
+2.5%
|
Assassin's Creed Valhalla | 80
+2.6%
|
78
−2.6%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 102
−6.9%
|
100−110
+6.9%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−30.8%
|
102
+30.8%
|
Far Cry 5 | 79
−39.2%
|
110−120
+39.2%
|
Forza Horizon 4 | 175
−28%
|
220−230
+28%
|
Hitman 3 | 111
+0%
|
111
+0%
|
Horizon Zero Dawn | 218
+20.4%
|
181
−20.4%
|
Shadow of the Tomb Raider | 242
+8.5%
|
223
−8.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+14.9%
|
121
−14.9%
|
Watch Dogs: Legion | 86
+1.2%
|
85
−1.2%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 123
+6%
|
116
−6%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 95−100
−27.6%
|
120−130
+27.6%
|
Far Cry New Dawn | 75−80
−20%
|
90−95
+20%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 50−55
−25.9%
|
68
+25.9%
|
Assassin's Creed Valhalla | 66
+1.5%
|
65
−1.5%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 79
+14.5%
|
65−70
−14.5%
|
Cyberpunk 2077 | 66
+6.5%
|
62
−6.5%
|
Far Cry 5 | 55−60
−19.3%
|
65−70
+19.3%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−6.3%
|
270−280
+6.3%
|
Hitman 3 | 100
+4.2%
|
96
−4.2%
|
Horizon Zero Dawn | 168
+15.1%
|
146
−15.1%
|
Metro Exodus | 114
+12.9%
|
101
−12.9%
|
Shadow of the Tomb Raider | 183
+10.2%
|
166
−10.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−27.3%
|
95−100
+27.3%
|
Watch Dogs: Legion | 205
+17.1%
|
175
−17.1%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 119
+4.4%
|
114
−4.4%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 88
+35.4%
|
65−70
−35.4%
|
Far Cry New Dawn | 67
+21.8%
|
55−60
−21.8%
|
Hitman 3 | 48
−8.3%
|
52
+8.3%
|
Horizon Zero Dawn | 150
−45.3%
|
210−220
+45.3%
|
Metro Exodus | 121
+13.1%
|
107
−13.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+14.4%
|
90
−14.4%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 52
+8.3%
|
48
−8.3%
|
Assassin's Creed Valhalla | 43
+0%
|
43
+0%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 50
+22%
|
40−45
−22%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+10%
|
30
−10%
|
Far Cry 5 | 49
+28.9%
|
35−40
−28.9%
|
Forza Horizon 4 | 114
+28.1%
|
85−90
−28.1%
|
Shadow of the Tomb Raider | 109
+12.4%
|
97
−12.4%
|
Watch Dogs: Legion | 43
+13.2%
|
38
−13.2%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 74
+7.2%
|
69
−7.2%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 3070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Horizon Zero Dawn ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 58%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 86%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 46การทดสอบ (64%)
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 21การทดสอบ (29%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (7%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 49.03 | 58.05 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 1 กันยายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 220 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 18.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 27.3%
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ